เป็นที่ทราบกันดีว่า กระบวนการยุติธรรมทางอาญาที่ล้าหลังของไทย ในปัจจุบัน ได้ก่อให้เกิดปัญหาสังคมและนำมาซึ่งความขัดแย้งต่างๆ ในหมู่ผู้คนขึ้นมากมาย

เมื่อวันที่ 21 มี.ค.2564 พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ โพสต์ข้อความ เรื่อง  ภารกิจตำรวจ คือ “รักษาความสงบตามรัฐธรรมนูญ บำบัดทุกข์บำรุงสุขและพิทักษ์สันติราษฎร์” มีรายละเอียดดังนี้

กระบวนการที่ศาลอาญาชั้นต้นมอบให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้วินิจฉัยว่าจะอนุญาตให้ประกันตัว 8 แกนนำ กปปส.หรือไม่ ทำให้บรรดาแกนนำ กปปส.ต้องอยู่ในเรือนจำ 2 วัน 3 คืน ก่อนที่ศาลอุทธรณ์จะอนุญาตให้ประกันตัวพวกเขาทั้งหมด แต่การรอคอยอยู่ในเรือนจำ

  ปัญหาสำคัญของประเทศไทยที่ทำให้รัฐบาลแต่ละยุคสมัยไม่สามารถ แก้ปัญหาสังคม ต่างๆ ได้อย่างแท้จริงก็คือ ข้อมูลราชการแทบทุกหน่วยงาน “เชื่อถือไม่ได้”

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 12 มี.ค.2564ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ถนนแจ้งวัฒนะ  นางอังคณา นีละไพจิตร ครอบครัวทนายสมชาย นีละไพจิตร นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 พร้อมญาติผู้สูญหายในประเทศไทย

เมื่อวันที่ 12 มี.ค.64 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 โพสต์ความเห็นถึง กฎกระทรวงกำหนดอัตราความเร็วของยานพาหนะบนทางหลวงแผ่นดินหรือทางหลวงชนบทที่กำหนด พ.ศ.2564 หลังจากเมื่อวันที่ 10 มี.ค.2564

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) 11 มี.ค.2564 พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ(จตช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการทางวินัยกับตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบเล่นการพนันในบ่อนการพนันในพื้นที่ภาคตะวันออก

ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาลรัฐบาล วันที่ 11 มี.ค.2564 นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ​ และ​ พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ​ พรรคก้าวไกล ยื่นหนังสื่อถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม

มีรายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4  มี.ค. 2564 เวลา  09.30  น.  ได้มีการประชุมอนุกรรมาธิการการยุติธรรมในคณะกรรมาธิการกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร  โดยได้พิจารณาข้อเสนอของสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (สป.ยธ.) ตามที่ พ.ต.อ.วิรุตม์  ศิริสวัสดิบุตร  เลขาธิการฯ

   ผู้คนที่พอมีสติและไม่หูหนวกหรือตาบอดพร้อมกันทั้งสองข้างต่างคงต้องยอมรับว่า สังคมไทยในเวลานี้มีปัญหาความไม่เป็นประชาธิปไตย คือ รัฐที่ปกครองโดยกฎหมาย ประชาชนไม่ว่าจะเป็นบุคคลหรือชนชั้นใดต้องอยู่ภายใต้กติกาของสังคมที่บัญญัติไว้อย่างเท่าเทียมกัน