‘ครูเวร’ไม่ปลอดภัย เพราะตำรวจผู้ใหญ่ ‘รับส่วยอบายมุข’ แหล่งเพาะอาชญากรรมและปัญหายาเสพติด

‘ครูเวร’ไม่ปลอดภัย เพราะตำรวจผู้ใหญ่ ‘รับส่วยอบายมุข’ แหล่งเพาะอาชญากรรมและปัญหายาเสพติด

ยุติธรรมวิวัฒน์

‘ครูเวร’ไม่ปลอดภัย เพราะตำรวจผู้ใหญ่ ‘รับส่วยอบายมุข’แหล่งเพาะอาชญากรรมและปัญหายาเสพติด

                                                                                                 พันตำรวจเอกวิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร

เหตุการณ์ครูผู้หญิงโรงเรียนของรัฐแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงรายซึ่งถูกจัดให้เข้าเวรรักษาความปลอดภัยทรัพย์สินช่วงวันหยุด

ได้ถูก ชายหื่นถืออาวุธปืนและมีด บุกเข้าประชิดตัว หวังข่มขืน!

แต่เธอได้ดิ้นรถต่อสู้ขัดขืนอย่างสุดฤทธิ์ พยายามยื้อแย่งมีด จนรอดมาได้ พร้อมอาการบาดเจ็บทั้งกายใจเป็นแผลลึกเสียขวัญไปอีกนาน

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้รัฐบาลได้มีมติคณะรัฐมนตรีสั่งยกเลิกการจัด ครูเวร รักษาความปลอดภัยในสถานศึกษาของรัฐทุกแห่งทันที

โดยที่ยังไม่มีแผนการปฏิบัติว่าจะสร้างระบบรักษาความปลอดภัยแบบใดมาทดแทน!

ปัจจุบัน ปัญหาหนักอกจึงตกอยู่กับ “ผู้อำนวยการโรงเรียนและสถานศึกษาของรัฐ” ทุกแห่งทั่วไทย

ทุกคนยังคิดไม่ออกว่า ถ้าไม่มีครูอยู่เวรวันหยุดแล้ว โรงเรียนจะป้องกันไม่ให้ใครบุกรุกเข้าไปลักทรัพย์ หรือทำให้ทรัพย์สินเสียหายอย่างหนึ่งอย่างใดได้อย่างไร?

ขณะนี้หลายแห่งจึงยังไม่มีการยกเลิกครูเวรทันที!

อ้างว่ายังต้องรอให้มีคำสั่งอย่างเป็นทางการมาก่อน และบางสถานศึกษาก็ใช้วิธีเลี่ยงบาลีด้วยคำว่า

มอบหมายให้ครูดูแลทรัพย์สินของโรงเรียนแทน!

แม้จะไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของมติ ครม.ที่ต้องการให้ยกเลิกความรับผิดชอบของครูในเรื่องนี้ทันที

แต่เป็นเพราะนายกรัฐมนตรีไม่ได้สั่งการต่อว่า การรักษาความปลอดภัยในและรอบโรงเรียนมิให้ถูกบุกรุกหรือโจรกรรมนั้น

ให้ “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” รับผิดชอบแทน โดยกำหนดแผนการปฏิบัติให้ชัดว่าจะทำอย่างไร

นอกจากนั้นปัญหาสำคัญก็คือ ตำรวจไทยจะพัฒนาระบบงานรักษาความปลอดภัยโรงเรียนของรัฐทุกแห่งอย่างไร จึงจะสามารถป้องกันมิให้ใครบุกรุกเข้าไปในวันหยุด หรือรักษาทรัพย์สินมีค่า เช่น อุปกรณ์การศึกษา เครื่องคอมพิวเตอร์

หรือแม้กระทั่ง “มิเตอร์” และ “หัวก๊อกทองเหลืองน้ำประปา” มิให้ถูกโจรกรรมกันไปมากมายเช่นที่ได้เกิดขึ้นในหลายโรงเรียน แม้แต่เขตกรุงเทพมหานคร

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอีสาน หลายโรงเรียนมี ต้นพะยูง ไม้มีค่าอายุนับร้อยปีอยู่ในพื้นที่

ปัจจุบันได้มีแก๊งคนร้ายพร้อมอาวุธสงครามขับรถ ตระเวนปล้น หรือลักลอบตัดอยู่ทั่วไป!

ยิ่งขณะนี้ เมื่อไม่มีครูเวรคอยดูแลเป็นหูเป็นตา หวังจะให้ตำรวจเข้าไปตรวจดูแลแทน

ในอนาคตทุกโรงเรียนคงไม่เหลือต้นไม้พะยูงแม้แต่ต้นเดียว!

หลักการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินที่ดี คงไม่ใช่วิธีจัดคนทั้งหญิงชายผลัดเปลี่ยนกันไปนั่งเฝ้าบ้านหรือสถานที่รวมทั้งทรัพย์กันทุกวี่ทุกวันเช่นปัจจุบันเป็นแน่

แต่ โดยหลักการก็คือ รัฐต้องทำให้ทุกสังคมและทุกชุมชน “ไม่มีคนร้าย”

ฉะนั้น การบังคับกฎหมายป้องกันอาชญากรรมที่สำคัญสามฉบับ คือ พ.ร.บ.การพนัน พ.ร.บ.สถานบริการ และ พ.ร.บ.อาวุธปืน  จึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง

เพราะกิจกรรมผิดกฎหมายเหล่านี้เป็นที่มาของ “การฆ่า” “การทำร้าย” “ลักขโมย” ไปจนกระทั่งการค้าและเสพยาติด บ่อเกิดของอาชญากรรมตามกฎหมายอาญาทุกข้อหา

หรือแม้ใครในสังคมที่มีจิตใจวิปริตคิดละเมิดกฎหมาย กระทำแล้วไม่ว่าจะเกิดความเสียหายมากหรือน้อยเพียงใด

รัฐก็ต้องไม่ปล่อยให้ หลุดรอด จากอาญาแผ่นดินไปได้

หากรัฐดำเนินการอย่างจริงจังในสองเรื่องที่สำคัญนี้ คนร้ายก็จะไม่มีเกิดขึ้นในสังคมไทยมากมายเช่นปัจจุบัน

ฉะนั้น การรักษากฎหมายป้องกันอาชญากรรมที่สำคัญสามฉบับ รวมทั้งการสอบสวนดำเนินคดีกรณีเมื่อมีการกระทำผิดเกิดขึ้นโดยมิชักช้าตามที่ ป.วิ อาญา มาตรา 130 บัญญัติไว้จึงเป็นหัวใจของการรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคมไทย

แต่สองข้อที่สำคัญนี้ ตำรวจผู้ใหญ่กลับ ไม่สนใจทำ

อาชญากรรมสารพัดจึงเกิดขึ้นมากมายในแทบทุกอำเภอและตำบล

จนกระทั่ง “ครูเวร” ทั้งหญิงชาย ก็ไม่สามารถป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากอาชญากรร้ายที่เกิดจากแหล่งอบายมุขสารพัด

ที่ตำรวจผู้ใหญ่นั่ง “รับส่วย” กันจนร่ำรวยมาอย่างยาวนานเหล่านั้นได้.

ที่มา : นสพ.ไทยโพสต์ คอลัมน์ เสียงประชาชนปฏิรูปตำรวจ : ฉบับวันที่ 29 ม.ค. 2567