‘เด้ง ผบก.’บ่อนปิดทั่วไทย แต่ ‘ตู้ม้า’ยังท้า นายกรัฐมนตรี – พันตำรวจเอกวิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร
สถานการณ์ระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 แม้ขณะนี้อาจกล่าวได้ว่าประเทศไทยสามารถควบคุมได้ในระดับหนึ่งด้วยมาตรการสำคัญคือ
การใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ปิดการคมนาคมทางอากาศ ไม่ให้ผู้คนจากทุกประเทศที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อเดินทางเข้ามา
และใช้กลไกในทุกจังหวัดและอำเภอ ทั้งฝ่ายปกครอง นายอำเภอ ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม.
ค้นหาและควบคุม บุคคลกลุ่มเสี่ยงและผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อในประเทศนำตัวมารักษาจนหาย
รวมทั้งการใช้อำนาจของผู้ว่าราชการทั้งกรุงเทพมหานครและทุกจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
ออกประกาศปิดธุรกิจที่เป็นสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ 26 ประเภท หรือมากกว่านั้น
หรือแม้กระทั่งการที่ผู้ว่าฯ หลายจังหวัด “ออกประกาศแบบมั่วๆ” ทั้งที่กฎหมายหรือ พ.ร.บ.โรคติดต่อไม่ได้ให้อำนาจไว้อย่างชัดเจน!
เช่น การบังคับให้ประชาชนผู้ออกนอกเคหสถานทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา แทนที่จะใช้วิธี รณรงค์ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมืออยู่แล้ว
เป็นการดำเนินการไปภายใต้นโยบายของรัฐว่า สุขภาพเหนือเสรีภาพ!
ซึ่งแม้จะถือว่าเป็นมาตรการป้องกันโรคที่ได้ผล แต่ในความเป็นจริง ประชาชนก็ไม่สามารถปฏิบัติตามประกาศที่ถือว่าเป็น กฎหมาย ที่มีโทษอาญานั้นได้ทุกคนทุกเวลา
เช่น ผู้คนที่จำเป็นต้องออกจากบ้านไปตรวจไร่ตรวจนา หากบ หาปลา หรือจำเป็นต้องออกไปถอนผักหญ้าตอนดึก
หรือแม้กระทั่งผู้คนทั่วไปที่ขับรถผ่านไปในจังหวัดที่ประกาศบังคับเช่นนั้นโดยไม่รู้ว่ามีการประกาศดังกล่าว? ทุกคนจึงอาจกลายเป็น ผู้ร้าย ถูก ตำรวจตงฉิน จับตัวดำเนินคดี ส่งให้อัยการฟ้องศาลพิพากษาลงโทษปรับ ถึงสองหมื่นบาท เอาง่ายๆ
รวมทั้งการใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประกาศห้ามประชาชนออกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00–04.00 น.
ซึ่งเรื่องนี้แม้จะไม่ได้มีผลต่อการป้องกันโรคเท่าการปิดธุรกิจเสี่ยง 26 ประเภท
แต่กลับทำให้เกิดการฝ่าฝืนและมีประชาชนถูกดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรมกันมากมาย!
เช่น ในกรณีคนงานก่อสร้างรถไฟฟ้า 14 คน ที่จำเป็นต้องเทปูนต่อเนื่องจนไกล้เวลาเคอร์ฟิวเนื่องจาก แบบแตก
หลังเทปูนแข่งกับเวลาจนเสร็จด้วยความเหน็ดเหนื่อย ผู้คุมงานของบริษัทก็บอกว่าสามารถเดินทางกลับบ้านย่านลำลูกกาได้ แม้จะเลยเวลา 22.00 น.
โดยได้ออกหนังสือ หลักฐานความจำเป็น ให้หัวหน้าคนงานถือไว้
แต่ หลักฐานสำคัญ ดังกล่าว ตำรวจ สภ.บางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ ไม่สนใจ บอกว่าใช้ไม่ได้ เพราะไม่ใช่กิจการที่ได้รับการยกเว้นแต่อย่างใด และนำไป ฉีกทิ้ง
คนงานทั้ง 14 คน ถูกจับตัว ยัดห้องขัง ดำเนินคดีข้อหาฝ่าฝืนเคอร์ฟิวทันที
ส่งเสียง ร้องไห้กันระงม
นายจ้างต้องระดมหลักทรัพย์ถึง 800,000 ในการประกันตัวออกมา
ทั้งที่ตามข้อเท็จจริงและ หลักความรับผิดทางอาญา ทุกการกระทำผิดต้องมี เจตนา ด้วยกันทั้งสิ้น
เว้นแต่เป็นการกระทำโดยประมาท หรือกรณีที่มีกฎหมายบัญญัติไว้
การเดินทางกลับบ้านของคนงานตามที่บริษัทบอกและออกหนังสือรับรองให้จึงถือว่า ขาดเจตนา ในการฝ่าฝืนเคอร์ฟิวอย่างชัดเจน
จึงไม่เป็นความผิดตามกฎหมายที่ตำรวจจะสามารถแจ้งข้อหาและจับกุมตัวทุกคนได้
ใครที่บอกว่า สุขภาพเหนือเสรีภาพ
ถ้าหากตนเองหรือญาติพี่น้องเป็นคนที่ถูกจับดำเนินคดีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเหมือนคนงานที่เป็นคนยากจนเหล่านี้บ้าง
คงบอกว่า เสรีภาพและความยุติธรรม ก็สำคัญไม่แพ้กัน
ปัญหาสำคัญเกี่ยวกับธุรกิจใต้ดินเรื่องหนึ่งที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและสังคมไทยตลอดมาและแม้กระทั่งในสถานการณ์โควิด-19
ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีไม่ได้แก้ปัญหานี้อย่างจริงจังก็คือ บ่อนการพนัน
หลังผู้ว่าราชการทุกจังหวัดประกาศปิดสถานประกอบการที่เป็นธุรกิจเสี่ยงต่อการแพร่โรคต่างๆ 26 ประเภท รวมทั้งบ่อนการพนันประเภท ข. สนามม้า สนามมวย บ่อนชนไก่ ชนวัว และไพ่นกกระจอก ไพ่ผ่องต่างๆ
ซึ่งถ้าเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่ทั้ง ผวจ.สำหรับจังหวัดภูมิภาค และผู้บัญชาการตำรวจนครบาลสำหรับเขตกรุงเทพมหานครไม่อนุญาต
ก็ไม่มีใครหรือแม้กระทั่ง นายพลทหาร ระดับใดสามารถจัดให้มีการแข่งขันและเล่นการพนันแม้กระทั่งชกมวยได้อยู่แล้ว
แต่บ่อนการพนันที่สร้างความเสียหายร้ายแรงคือประเภท ก. เช่น บาคารา ไฮไล โปปั่น และสล็อตแมชชีน และอีกมากมาย และไม่ได้อยู่ในรายการที่รัฐสามารถอนุญาตให้ “นายบ่อน” เปิดให้ประชาชนเล่นได้ไม่ว่าในกรณีใดๆ ทั้งสิ้น
ก่อนสถานการณ์โควิดและแม้กระทั่งได้เกิดแล้ว บ่อนการพนันผิดกฎหมายเหล่านี้ก็เปิดกันมากมายแทบจะเรียกได้ว่าอย่างเสรี มีทั้งในกรุงเทพมหานครและทุกจังหวัดใหญ่ ไม่ว่า ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง และผู้ว่าราชการจังหวัด จะไปจับโดยไม่บอกให้หัวหน้าหน่วยตำรวจระดับต่างๆ รู้สักกี่แห่ง
ก็ไม่เคยมีผลกระทบอะไรต่อตำแหน่งของ ตำรวจชั้นนายพล ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดและตำรวจภาค แม้กระทั่งส่วนกลางที่ รู้เห็นเป็นใจ ให้มีการเปิดบ่อนพนันเหล่านั้นแต่สล็อตแมชชีนอย่างใด!
แต่หลังเกิดสถานการณ์โควิด-19 การจับกุมบ่อนพนันโดยกรมการปกครองในจังหวัดนนทบุรี ส่งผลทำให้มีการสั่ง ผบก.จังหวัด ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตำรวจภาคตามมา
แทนที่จะเป็นแค่การ เด้งขึ้น เด้งลง “ห้าเสือ” หรือแท้จริงคือ “ห้าแพะ” เช่นทุกครั้ง
รวมทั้งการจับกุมในพื้นที่ สน.บางชัน ก็ได้มีการสั่งให้ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ บช.น. ด้วยเช่นกัน
การสั่งดังกล่าวสะท้อนว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเริ่มเอาจริงกับปัญหานี้
ส่งผลให้ในปัจจุบัน หัวหน้าตำรวจทุกพื้นที่ทั้งระดับสถานีและจังหวัด ได้ สั่งให้ปิดบ่อนพนัน ในพื้นที่รับผิดชอบลงทั้งหมด!
ส่วน ตู้ม้า และ ตู้สล็อต, เครื่องจักรการพนัน สารพัด ที่ตั้งกันอยู่มากมายทั่วไทยมาหลายปี
กลุ่มทรชนผู้ประกอบทุรกิจที่ทำลายเด็กและเยาวชน ภายใต้การคุ้มครองนายพลตำรวจระดับต่างๆ มาอย่างยาวนานเหล่านี้
ไม่รู้จะขนไปเก็บซ่อนไว้ที่ไหน!
ในจังหวัดใหญ่หลายแห่ง โดยเฉพาะเขตปริมณฑล
จึงทำกันแค่ ถอดปลั๊ก และ คลุมผ้าไว้ เท่านั้น
ปฏิบัติตามคำแนะนำของตำรวจผู้รู้ว่า ถ้าไม่ได้เล่นและไม่มีแผงวงจรในนั้น ก็ไม่ผิดกฎหมาย ผู้ว่าฯ นายอำเภอ กรมการปกครอง หรือไม่ว่าใคร ก็ไม่สามารถจับกุมหรือยึดไปได้?
ส่งผลให้ในหลายจังหวัดยังคงมีตู้ม้า ตู้ผลไม้ และตู้สล็อตสารพัดประเภทตั้งตามร้านอาหาร ในตลาดขนาดเล็ก และโต๊ะสนุกเกอร์ ให้บริการเด็กและเยาวชนเป็นปกติอยู่มากมาย
ในการกำจัด เครื่องจักรการพนัน ทั่วไทย ไม่ว่าจะเสียบปลั๊กและมีแผงวงจรที่นำเข้าโดยไม่เสียภาษีหรือไม่
มีข้อจำกัดทางกฎหมายที่ตำรวจผู้รับผิดชอบและทุกฝ่ายไม่สามารถจัดการได้จริงหรือ?
หลัง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำการปฏิวัติยึดอำนาจ ได้ออก ประกาศ คสช.ฉบับที่ 83/2557 เมื่อวันที่ 10 ก.ค.2557 ข้อ 2 ความว่า
“ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจยึดและทำการตรวจสอบเครื่องเล่นเกม หากพบว่ามีลักษณะที่สามารถใช้หรือนำมาประกอบเพื่อใช้เล่นการพนันได้ ไม่ว่าเป็นเครื่องเล่นเกมที่ผลิตและนำเข้ามาในราชอาณาจักรหรือผลิตในราชอาณาจักร “ให้เครื่องเล่นเกมนั้นตกเป็นของแผ่นดิน” เว้นแต่เจ้าของกรรมสิทธิ์ได้แสดงตนและสามารถแสดงหลักฐานว่ามีไว้โดยชอบด้วยกฎหมายภายในสามสิบวันนับแต่ถูกยึด”
เช่น ในจังหวัดอุบลราชธานี ที่ ผู้บังคับการตำรวจมีปัญหาเรื่องความประพฤติ ไม่ให้ความร่วมมือเจ้าพนักงานตามมาตรการป้องกันโรคติดต่อเมื่อเดินทางจากกรุงเทพฯ มายังสนามบินจังหวัดอุบลฯ
ส่งผลทำให้ถูกสั่งไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตำรวจภาค เป็นเวลา 30 วัน
และตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อดำเนินการทางวินัย ซึ่งยังไม่มีใครรู้ว่า สุดท้ายจะถูกลงโทษวินัยร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรงอย่างไรบ้างหรือไม่นั้น
เป็นจังหวัดที่มีปัญหาเรื่องบ่อนการพนันผิดกฎหมายและตู้ม้า ตู้สล็อต เครื่องจักรการพนัน ในจังหวัดมากมาย
ซึ่ง นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.จังหวัดอุบลราชธานี เคยนำปัญหานี้ไปอภิปรายในญัตติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเมื่อสี่ห้าเดือนก่อนที่ผ่านมา
ซึ่งแม้บ่อนการพนันใหญ่ในจังหวัดจะปิดลงไปในขณะนี้ เนื่องจากคิดว่านายกรัฐมนตรีคงเอาจริงแน่
แต่ ตู้ม้า, ตู้สล๊อต ก็ไม่ได้หายไปแต่อย่างใด
นอกจากไม่ได้ถอดปลั๊กคลุมผ้าไว้เหมือนหลายจังหวัดแล้ว
ก็ยังคงเปิดให้เด็กเยาวชนและประชาชนคนยากจนเข้าไปเล่นกันอย่างเป็นปกติอีกด้วย!.
ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์ คอลัมน์ เสียงประชาชนปฏิรูปตำรวจ: ฉบับวันที่ 4 พ.ค. 2563