‘วิชา’เรียกสอบพงส.สน.ทองหล่อพบพิรุธพยานงอก2ปาก -อ้างสอบ’ธนสิทธิ’2หนทั้งที่สอบจริงครั้งเดียว

‘วิชา’เรียกสอบพงส.สน.ทองหล่อพบพิรุธพยานงอก2ปาก -อ้างสอบ’ธนสิทธิ’2หนทั้งที่สอบจริงครั้งเดียว

 

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 17 ส.ค.2563  ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อาคารเทเวศร์ คณะทำงานชุดตรวจสอบตำรวจ โดย พล.อ.กฤษณะ บวรรัตนารักษ์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ในคณะกรรมการชุดของนายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญากรณีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ขับรถชนตำรวจสน.ทองหล่อ ถึงความตายเมื่อปี2555  ​ ได้เชิญคณะทำงานของ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ซึ่งดำรงตำแหน่งพนักงานสอบสวนสน.ทองหล่อ มาให้ข้อมูล

 

จากนั้นเวลา 14.30 น. นายวิชา ประธานฯ ได้เดินทางมามาร่วมรับฟังด้วย ต่อมา นายวิชา เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วันนี้ พ.ต.อ.ธนสิทธิแตงจั่น นักวิทยาศาสตร์สำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้เดินทางมาให้ข้อมูล ส่วนความคืบหน้าในวันนี้ได้เชิญ คณะทำงานชุดของ พล.ต.ท.เพิ่มพูน มาให้ข้อมูล เป็นผู้ที่เห็นด้วยกับคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการ คือไม่มีความเห็นแย้ง

 

“คณะกรรมการฯ จึงอยากทราบความเป็นมาว่าเป็นอย่างไร ซึ่งได้ความว่า เขาดูแต่สำนวน แต่ไม่ได้ดูรายละเอียด ไม่ได้เปรียบเทียบกับของเดิมว่ามีความแตกต่างอย่างไรไม่ได้ดูความเป็นพิรุธ ทำตามสายงาน ทางคณะกรรมการฯจึงได้บอกไปว่า ในข้อเท็จจริงก็โต้แย้งได้ ข้อกฎหมายก็โต้แย้งได้ และถ้าข้อเท็จจริงยังไม่ครบถ้วน ก็มีหลักของตำรวจอยู่ว่าถ้าจะแย้งก็สามารถสอบเพิ่มเติมอีกได้ แต่ปรากฏว่าไม่ได้ทำอะไรเลย”

 

นายวิชา กล่าวว่า นอกจากนั้น ยังได้เชิญ พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ซึ่งดำรงตำแหน่งพนักงานสอบสวนสน.ทองหล่อในขณะนั้น มาให้ข้อมูล มีข้อที่น่าสนใจตรงนี้ที่ว่า ทำไมไปดึงพยานที่ปัจจุบันเรียกว่าพยานงอกมา 2 ปาก ซึ่งมีการปฏิเสธไปแล้วโดยอธิบดีอัยการศาลอาญากรุงเทพใต้ และอดีตอัยการสูงสุดก็ปฏิเสธว่าหลักฐานไม่เพียงพอ จึงได้ยุติเรื่องร้องขอความเป็นธรรม ซึ่งคณะกรรมการฯได้สอบถามประเด็นเหล่านี้ รวมถึงประเด็นที่ พ.ต.ท.ธนสิทธิ เคยให้ไทม์ไลน์เอาไว้ว่า ใครมาพบ พบกี่คน เป็นใครบ้าง ซึ่งพ.ต.ท.วิรดล ให้ถ้อยคำแบ่งรับแบ่งสู้ คือ บางอย่างก็ยอมรับว่าจริง บางอย่างก็บอกว่าไม่ใช่ เรื่องนี้เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที หลังจากฟังถ้อยคำของ พ.ต.ท.ธนสิทธิ เสียก่อน

 

“รวมทั้งที่ผมคิดว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดก็คือ ไปลงวันที่ที่สอบ พ.ต.ท.ธนสิทธิ ที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง เพราะไม่ได้สอบในวันที่ 2 มี.ค.2559 แต่สอบจริงวันที่ 26 ก.พ.2559 เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ตรงนี้เขายืนยันแล้ว คณะกรรมการจะดูทุกรายละเอียด ทุกข้อสังเกต ไม่ได้สักแต่ว่าจะสอบไปเรื่อยๆ จะดูแต่ละประเด็นอย่างละเอียด อย่างวันนี้ก็เห็นชัดเจนแล้วถึงความบกพร่องและความเป็นเท็จของการทำสำนวนคดี” นายวิชากล่าว

 

เมื่อถามว่าจากจุดบกพร่องที่เห็น บอกได้เลยใช่หรือไม่ว่าความบกพร่องมาจากตำรวจนายวิชา กล่าวว่า “ก็ที่ลงวันที่แบบนี้ ลงวันที่เป็นเท็จ ใครเป็นคนทำเล่า ซึ่งก็บ่งบอกว่าพยายามจะทำให้เห็นว่า มีการสอบสวนถึง 2 ครั้ง ใช้ความเพียรพยายาม ใช้ความระมัดระวังอะไรต่ออะไร แต่ทั้งที่จริงแล้ว ใช้ช่วงระยะเวลาสอบเพียงวันเดียว”

 

ถามย้ำว่า พ.ต.อ.วิรดล ยอมรับหรือไม่ว่าบกพร่อง นายวิชา กล่าวว่า “ไม่ใช่เขายอมรับว่าบกพร่อง แต่เขายอมรับว่า ลงวันที่ไม่จริง ซึ่งจุดนี้ไม่ต้องไปสืบเจตนาอะไร แต่เป็นเจตนาของพฤติกรรม ซึ่งเขาบอกว่า เป็นเพราะอัยการเร่งรัดมา เขาเลยอยากจะลงวันที่ไว้ล่วงหน้า เผื่อว่าจะต้องเรียก พ.ต.ท.ธนสิทธิมาให้ถ้อยคำอีกครั้งหนึ่ง มันจะได้สมเหตุสมผล”

 

เมื่อถามถึงเหตุผลที่ พ.ต.อ.วิรดล นำพยานงอก 2 ปากใส่ไว้ในสำนวนคดี นายวิชา กล่าวว่า “เขาบอกว่าเป็นพยานผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเห็นว่าน่าเชื่อถือ เราก็ถามว่า ทราบหรือไม่ว่า พ.ต.ท.ธนสิทธิ พยายามโทรศัพท์ เพื่อขอเปลี่ยนแปลงเรื่องความเร็วรถให้กลับมาเป็น 177 กม./ชม.เหมือนเดิม แต่ พ.ต.ท.วิรดล บอกว่าเขากำลังยุ่งคดีอื่นที่สำคัญเช่นกันเขาเลยไม่เป็นอันทำอะไร เขาจึงบอกว่าจบแล้ว ทั้งที่จริงๆ มันไม่จบ