ผิดวินัยไม่ร้ายแรง!ปปช.ชี้มูลความผิดอดีตรองผบก.น.4-ตำรวจสน.ทองหล่อรวม7นายช่วยเหลือทายาทกระทิงแดงไม่ให้ถูกดำเนินคดีเมาแล้วขับชนตร.เสียชีวิต

ผิดวินัยไม่ร้ายแรง!ปปช.ชี้มูลความผิดอดีตรองผบก.น.4-ตำรวจสน.ทองหล่อรวม7นายช่วยเหลือทายาทกระทิงแดงไม่ให้ถูกดำเนินคดีเมาแล้วขับชนตร.เสียชีวิต

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2563  สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  เผยแพร่เรื่องกล่าวหาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด โดยมีคดีที่น่าสนใจคือ คดีที่มีการกล่าวหา พล.ต.ต.กฤษฏิ์ เปียแก้ว เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (ผบก.น.5), พ.ต.อ.สุคุณ พรหมายน รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5, พ.ต.อ.ไตรเมต อู่ไทย รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล  5, พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ, พ.ต.อ.สัมฤทธิ์ เกตุแย้ม ในฐานะคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนที่ร่วมลงนามในสำนวนการสอบสวน, พ.ต.ท.วิบูลย์ ถิ่นวัฒนากูล ในฐานะคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนที่ร่วมลงนามในสำนวนการสอบสวน และ พ.ต.ท.วิรดล ทับทิมดี เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ

 

ฐานกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม กรณีสอบสวนช่วยเหลือนายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทเครือธุรกิจเครื่องดื่ม “กระทิงแดง” ไม่ให้ถูกดำเนินคดีขับรถขณะเมาสุรา ขับรถเร็วเกินกว่าอัตรากฎหมายกำหนด และไม่ดำเนินการออกหมายจับนายวรยุทธ เพื่อให้ได้ตัวมาส่งพนักงานอัยการฟ้องดำเนินคดีตามกฎหมาย เป็นเหตุให้ผู้ต้องหาหลบหนี

 

โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติว่ามีมูลความผิด โดยแยกเป็นกรณี ประกอบด้วย กรณีมีเจตนาละเว้นไม่ดำเนินคดีกับนายวรยุทธ ในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และกรณีไม่นำรายงานผลการคำนวณความเร็วของกองพิสูจน์หลักฐานซึ่งพบว่านายวรยุทธขับขี่รถยนต์ด้วยความเร็วโดยเฉลี่ย 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มาประกอบการทำความเห็นในทางคดีนั้น ป.ป.ช.มีมติว่า พ.ต.ท.วิรดล ทับทิมดี มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความตั้งใจอุตสาหะ เพื่อให้เกิดผลดีหรือความก้าวหน้าแก่ราชการ เอาใจใส่ ระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของทางราชการ และประมาทเลินเล่อ ในหน้าที่ราชการตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 78 (9) ทั้งนี้ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 23 วรรคสอง ส่วนกรณีละเว้นไม่ดำเนินการออกหมายจับนายวรยุทธนั้น ป.ป.ช.มีมติว่า พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง, พ.ต.อ.สัมฤทธิ์ เกตุแย้ม, พ.ต.ท.วิบูลย์ ถิ่นวัฒนากูล และ พ.ต.ท.วิรดล ทับทิมดี มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ  พ.ศ.2547 มาตรา 78 (9)

 

ส่วนกรณีคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ร่วมลงนามในสำนวนการสอบสวน คดีจราจร 632/2555  ของสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อนั้น ป.ป.ช.มีมติว่า พล.ต.ต.กฤษฏิ์ เปียแก้ว, พ.ต.อ.สุคุณ พรหมายน  และ พ.ต.อ.ไตรเมต อู่ไทย ในฐานะผู้บังคับบัญชา ไม่กำกับดูแล ติดตาม เพื่อให้การสอบสวนเป็นไป โดยถูกต้องรอบคอบ และเป็นธรรม เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย อันถือเป็นความบกพร่อง ซึ่งมีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 78 (9) เช่นกัน

 

โดย ป.ป.ช.มีมติให้ส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัยกับ พล.ต.ต.กฤษฏิ์ เปียแก้ว, พ.ต.อ.สุคุณ พรหมายน, พ.ต.อ.ไตรเมต อู่ไทย, พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง, พ.ต.อ.สัมฤทธิ์ เกตุแย้ม, พ.ต.ท.วิบูลย์ ถิ่นวัฒนากูล และ พ.ต.ท.วิรดล  ทับทิมดี ตามฐานความผิดดังกล่าว ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561  มาตรา 91 (2)

 

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันที่ 3 ก.ย.2555 นายวรยุทธ อยู่วิทยา  หนุ่มนักเรียนนอกจากประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นลูกชายคนเล็กของนายเฉลิม อยู่วิทยา มหาเศรษฐีเจ้าของเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อกระทิงแดง  ขับรถยนต์หรูยี่ห้อเฟอร์รารี่   รุ่นพินินฟาริน่า สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ญญ 1111 กรุงเทพมหานคร  ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ อดีตผู้บังคับหมู่ปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ เสียชีวิตบนถนนสุขุมวิท ขณะกำลังขับรถจักรยานยนต์ไปปฏิบัติหน้าที่

เสียชีวิตห่างจากจุดเกิดเหตุ 200 เมตร บริเวณปากซอยสุขุมวิท 49 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม.

หลังจากเกิดเหตุนายวรยุทธ ได้หลบหนีไปทันที  จากนั้นได้มอบตัวสู้คดีและได้รับการประกันตัวไป แต่การดำเนินการสอบสวนดำเนินคดีเป็นไปอย่างล่าช้า ปัจจุบันนายวรยุทธ ยังหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ