งามหน้า!ผู้การฯเมืองคอนสั่งย้ายด่วน’ดาบตำรวจ’สภ.เฉลิมพระเกียรติ เอเยนต์รายใหญ่ค้ายาเสพติด เรียกรับส่วยอีกเดือนละ3หมื่น หากไม่จ่ายนำตร.เข้าจับกุม

งามหน้า!ผู้การฯเมืองคอนสั่งย้ายด่วน’ดาบตำรวจ’สภ.เฉลิมพระเกียรติ เอเยนต์รายใหญ่ค้ายาเสพติด เรียกรับส่วยอีกเดือนละ3หมื่น หากไม่จ่ายนำตร.เข้าจับกุม

 

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2563พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นครศรีธรรมราช มีคำสั่งย้ายด่วน ดาบตำรวจ ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจภูธร จ.นครศรีธรรมราช พร้อมสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน สำหรับคำสั่งย้ายดังกล่าวสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเฉลิมพระเกียรติ เข้าจับกุมนายปิยะพงศ์ อินสวน ผู้ค้ายาเสพติดพร้อมของกลางยาบ้า 56 เม็ด และเงินสดที่ได้จากการค้ายาเสพติดจำนวนหนึ่ง

 

พล.ต.ต.สนธิชัย กล่าวว่า หลังตำรวจเข้าจับกุม นายปิยะพงศ์ ได้มีการเผยแพร่คลิปการสอบปากคำ นายปิยะพงศ์ ทางโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง โดยในคลิป นายปิยะพงศ์ ผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่า เอเยนต์ใหญ่ค้ายาเสพติด คือ ดาบตำรวจนายดังกล่าว โดยส่งยาบ้าให้ขายครั้งละ 1 ถุง ถุงละ 200 เมตรในราคา 10,000 บาท นอกจากนี้ยังเรียกเก็บส่วยหลังค้ายาเสพติดจากนายปิยะพงศ์ อีกเดือนละ 30,000 บาท ส่งผลให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกโซเชียล สอดคล้องกับทุกครั้งที่มีการจับกุมผู้เสพ และผู้ค้ายาเสพติดรายย่อย มักจะให้การซัดทอดว่ารับยาเสพติดมาจากเอเยนต์ ชื่อ นายปิยะพงศ์ และนายดิศรณ์ ชุ่มแก้ว อายุ 27 ปี หรือ ฉายาแซก สวนหลวง, นายจักรตรา นำส่ง อายุ 37 ปี เจ้าของฉายา หมอตูน คนสร้างลาย ซึ่งเป็นหมอรับจ้างสักลายชื่อดังในพื้นที่ และมีอาชีพเป็นเซียนพนันไก่ชน

 

ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช กล่าวต่อว่า จากนั้นไม่นาน พ.ต.อ.รังสรรค์ สุขเกื้อ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.นครศรีธรรมราช ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนติดตามจับกุม “แซก สวนหลวง” และลูกน้องของ หมอตูน คนสร้างลาย พร้อมของกลางยาเสพติดจำนวนมาก แต่หมอตูน คนสร้างลาย สามารถหลบหนีไปได้เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา จากการสอบปากคำผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ให้การซัดทอดว่า รับยาเสพติดมาจาก ดาบตำรวจนายดังกล่าว ในราคาถุงละ 10,000 บาท โดยเอเยนต์ทุกคนจะต้องจ่ายส่วนต่างค้าขายยาเสพติดให้กับ ด.ต.ศตวิทย์ อีกเดือนละ 30,000 บาท หากไม่จ่ายก็จะถูก ด.ต.ศตวิทย์ นำกำลังตำรวจเข้าจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย และถ้าหากเปลี่ยนไปรับยาเสพติดจากเอเยนต์รายอื่น ก็จะถูก ดาบตำรวจ พาเพื่อนตามไปจับกุมจนไม่สามารถขายยาเสพติดในพื้นที่ได้ ทำให้ปัจจุบันทั้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ มีเอเยนต์ค้ายาเสพติดของ ดาบตำรวจดังกล่าวเพียงเครือข่ายเดียว ซึ่งสร้างรายได้ให้กับเดือนละนับล้านบาท

 

มีรายงานว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเงินจากการค้ายาเสพติดทั้งหมดจะเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่งซึ่งเป็นของภรรยา ดาบตำรวจที่ถูกกล่าวหา โดยมีเงินหมุนเวียนนับ 10 ล้านบาท และหลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปการสอบสวน นายปิยะพงษ์ ผู้ต้องหา ได้ให้การซัดทอดไปถึงผู้บงการใหญ่ คือ ด.ต.ศตวิทย์ เมื่อค่ำวานนี้ ปรากฏว่าภรรยาของ ดาบตำรวจนายดังกล่าวได้โดยสารเครื่องบินเที่ยวสุดท้ายจาก จ.นครศรีธรรมราช เข้ากรุงเทพมหานคร ทันที