คดี’บ่อนการพนันและตู้ม้า’ รายใหญ่ ทำไมจึงมีคนอยากให้ ‘สอบสวนแบบธรรมดา

คดี’บ่อนการพนันและตู้ม้า’ รายใหญ่ ทำไมจึงมีคนอยากให้ ‘สอบสวนแบบธรรมดา

ยุติธรรมวิวัฒน์

คดี บ่อนการพนันและตู้ม้า” รายใหญ่ ทำไมจึงมีคนอยากให้ สอบสวนแบบธรรมดา

 

                                                     พันตำรวจเอกวิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร

 

ไม่มีใครเข้าใจว่า เหตุใด พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงไม่เคยพูดจาเกี่ยวกับ ปัญหาหัวหน้าหน่วยตำรวจระดับต่างๆ “ไม่ปฏิบัติงานรักษากฎหมายตามหน้าที่และความรับผิดชอบ ของตน

  ซ้ำยังมี นายพลตำรวจ หลายคนหลายระดับ มีพฤติกรรมรู้เห็นเป็นใจ ปล่อยให้มีแหล่งอบายมุขทั้งบ่อนการพนัน สถานบันเทิงผิดกฎหมายหรือเปิดเกินเวลา รวมทั้งตู้ม้าตู้สล็อต เครื่องจักรการพนัน ในพื้นที่ต่างๆ เกิดขึ้นทั่วประเทศมากมายในช่วงเวลา ห้าปีที่ผ่านมาหลังการยึดอำนาจเมื่อ 22 พ.ค.57

บ่อนพนันและ ตู้ม้า ได้ ตามไล่ล่า” เงินค่าอาหารกลางวันของเด็กนักเรียน รวมทั้งคนยากจนทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆ ไปในแต่ละเดือนแต่ละปีมากมาย รวมนับร้อยหรืออาจนับพันล้านบาท

เหยื่อ ส่วนใหญ่ล้วนเป็นกลุ่มคนที่นายกรัฐมนตรีพร่ำพูดอยู่เสมอว่า เป็นห่วง เยาวชนก็เปรียบเสมือนลูกหลานและผู้ใช้แรงงานก็คือเพื่อนร่วมชาติคนหนึ่ง

บ่อนพนันและตู้ม้าเหล่านี้ ได้ซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจและสังคมของพวกเขาที่หนักหนาสาหัสอยู่แล้วแม้กระทั่งก่อนสถานการณ์โควิด-19

ให้เลวร้ายหนักยิ่งขึ้นไปอีก!

ในวงการตำรวจนั้น ส่วนใหญ่รู้กันดีกันมานานแล้วว่า  ปัญหาแหล่งอบายมุขซึ่งก่อให้เกิดปัญหาสารพัดทั้งอาชญากรรมความไม่สงบเรียบร้อยและยาเสพติดมากมาย       มีตำรวจระดับใดอยู่เบื้องหลัง?

ที่ทำให้ ตำรวจผู้น้อยทั่วประเทศ ไม่สามารถจับกุมและแม้กระทั่ง ไม่กล้าไปเดินเฉียดหรือตรวจตรา ตามหน้าที่ของตนที่ได้รับมอบหมายจากสังคมได้

เป็นเหตุให้ ฝ่ายปกครอง ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ หรือแม้กระทั่ง กรมการปกครอง ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ส่วนกลางคือกรุงเทพมหานคร ต้องจัดชุดปฏิบัติการต่างๆ นำกำลัง อส. ออก สืบจับแทนตำรวจทุกหน่วย ตลอดมากว่า หกปี หลังจากที่มีการยึดอำนาจ

ส่วนหัวหน้าสถานีตำรวจผู้รับผิดชอบ หลังจากที่มีการจับกุมเกิดขึ้นโดยที่ ไม่มีการบอกหรือแม้แต่จะแพร่งพรายให้ตำรวจคนใดรู้ แล้ว

หลายคนก็รีบ วิ่งโร่ ไป ยืนกระมิดกระเมี้ยน ขอ ลงชื่อร่วมจับด้วย! 

เป็นการสร้าง หลักฐานเท็จ ว่าเป็นการประสานจับร่วมกันหลายฝ่าย ไม่ได้บกพร่องหรือละเลยต่อหน้าที่แต่อย่างใด?

ระยะแรก ฝ่ายปกครอง ผู้ว่าฯ นายอำเภอ ก็ ใจอ่อน ยอมให้หัวหน้าสถานีลงชื่อร่วมจับด้วยตลอดมา

แต่ระยะหลัง ไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นอีกต่อไป 

หัวหน้าสถานีและตำรวจระดับรองผู้รับผิดชอบพื้นที่ ได้แต่นั่งรอ คำสั่งเด้ง ให้ไปประจำ ศปก.จว. ตร.ภาค หรือแม้กระทั่ง สตช.ชั่วระยะเวลาหนึ่ง

ซึ่งในความเป็นจริง ก็ไม่ได้ทำให้ตำรวจเหล่านี้เข็ดหลาบแต่อย่างใด?

ซ้ำบางคน เด้งไป เด้งมา สุดท้าย ยังได้เลื่อนตำแหน่ง เลื่อนชั้นสถานีดีกว่าเดิมอีกด้วย!

แต่หลังเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19  ที่ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องเข้มงวดกับแหล่งอบายมุขทั้งถูกและผิดกฎหมายซึ่งถือเป็นแหล่งเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคร้าย

ทำให้นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้ เด้งตำรวจระดับ ผบก. ผู้รับผิดชอบพื้นที่ด้วย

แต่ ผบก.และ ผบช.หลายพื้นที่ก็ยังไม่เกรงกลัว เนื่องจาก การสอบสวนคดีอาญาไม่เคยสืบสาวได้ว่า มีตำรวจคนใดรับส่วยสินบนจากแหล่งอบายมุขผิดกฎหมายเหล่านี้แต่อย่างใด?

ในระยะหลัง ฝ่ายปกครองคงคิดว่า ถ้าจับกุมแล้วส่งให้ตำรวจท้องที่รับผิดชอบการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเหมือนหลายสิบหรืออาจนับร้อยคดีเหมือนที่ผ่านมา

ปัญหาแหล่งอบายมุขผิดกฎหมายในประเทศไทย ก็คงแก้ไขไม่ได้ไปชั่วนิรันดร์

ในการจับบ่อนพนันรายใหญ่ในจังหวัดระยอง จึงได้มีการประสานงานให้ กรมสอบสวนพิเศษไปร่วมจับกุมและรับรู้พยานหลักฐานต่างๆ ที่ตรวจพบเพื่อประโยชน์ในชั้นการสืบสวนพร้อมกันด้วย

ส่วนจะเป็นผู้รับผิดชอบการสอบสวนคดีแทนตำรวจพื้นที่ด้วยหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับว่า จะสามารถรายงานให้ คณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ

มีมติรับเป็นคดีพิเศษตามตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ มาตรา 21 (ก) คือ

ความผิดทางอาญาที่มีความซับซ้อน จำเป็นต้องใช้วิธีการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเป็นพิเศษ 

หรือ (ง) ความผิดที่มีผู้ทรงอิทธิพลที่สำคัญเป็นตัวการ ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุน หรือไม่?

ซึ่งจะทำให้สามารถใช้อำนาจตามกฎหมายคดีพิเศษรวมทั้งเครื่องมือและอุปกรณ์ทันสมัยต่างๆ ที่จัดซื้อมา  รวบรวมพยานหลักฐานให้สามารถสาวไปถึง ตัวการใหญ่และผู้อยู่เบื้องหลัง ที่แท้จริงได้

รวมทั้งคดี จัดให้มีการเล่นการพนันผิดกฎหมายรายใหญ่ที่มีวงเงินเกินห้าล้านบาทขึ้นไป ถือเป็นความผิดมูลฐานหนึ่งตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน มาตรา 2 (9) ด้วย

โดยคณะกรรมการธุรกรรมสามารถอายัดและยึดทรัพย์ที่สงสัยว่าได้มาจากการกระทำความผิดทั้งหมดได้  แม้ว่าบางรายการ จะถูกแปรรูปหรือถ่ายโอนไปให้ใคร ไม่ว่าจะมีสีหรือไม่มีสี แล้วก็ตาม

นอกจากนั้น การ พยายามหรือสมคบ กับบุคคลใดเพื่อกระทำความผิดดังกล่าว ก็ถือเป็นความผิดตามกฎหมายฟอกเงินเช่นเดียวกับคดียาเสพติดด้วย

จึงเป็นที่มาของความพยายามในการ ทำให้คดีการจับบ่อนพนัน และตู้ม้ารายใหญ่ ไม่เป็น คดีพิเศษ

อยากให้เป็น “การสอบสวนแบบธรรมดา” ที่สถานีตำรวจหรือหน่วยตำรวจรับผิดชอบการสอบสวนเองเช่นทุกคดีที่ผ่านมา 

เนื่องจากสามารถ สั่งการและควบคุม ได้ง่ายกว่า การสอบสวนแบบพิเศษ

ซึ่งผู้ปฏิบัติงานส่วนใหญ่เป็นข้าราชการพลเรือน ไม่มียศและวินัยแบบทหาร เหมือน พนักงานสอบสวนคดีธรรมดา นั่นเอง.

คดีบ่อนการพนัน

ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์ คอลัมน์ เสียงประชาชนปฏิรูปตำรวจ: ฉบับวันที่ 22 มิ.ย. 2563