ผู้ว่าฯเชียงใหม่ไม่สนคำสั่งมิชอบของผบ.ตร.!ใช้ข้อบังคับมท.สั่งฝ่ายปกครองเข้าร่วมการสอบสวนกับฝ่ายตำรวจคดี7ตร.สภ.แม่อายรีด3แสน พร้อมให้คุ้มครองพยานและครอบครัว

ผู้ว่าฯเชียงใหม่ไม่สนคำสั่งมิชอบของผบ.ตร.!ใช้ข้อบังคับมท.สั่งฝ่ายปกครองเข้าร่วมการสอบสวนกับฝ่ายตำรวจคดี7ตร.สภ.แม่อายรีด3แสน พร้อมให้คุ้มครองพยานและครอบครัว

จากกรณี นายฐานะพล เสาวคนธ์ เจ้าของร้านอาหารในพื้นที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ร้องเรียนว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ รีดเงิน 3 แสนบาท นางพิมพ์ชนก ประทุม ภรรยา อายุ 22 ปี พร้อมลูกอายุ1 ขวบ  ที่ถือบัตรสีชมพู (คนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย)  แลกกับการปล่อยตัวในข้อหานำพาต่างด้าว ขณะเดินทางกลับจากงานแต่งญาติที่ อ.แม่อาย เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ก.พ.2563

ต่อมานายฐานะพล ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.ต.ท.ประจวบ วงค์สุข ผบช.ภ.5 โดยมีหลักฐานเป็นสลิปการโอนเงิน และหลักฐานการถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารหลายครั้งรวม 3 แสนบาท  ต่อมาหลังมีการร้องเรียนได้มีการสั่งให้ตำรวจ สภ.แม่อาย 5 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน และตั้งคณะกรรมการสอบสวน

หลังจากนั้นนายฐานะพล เข้าร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดเชียงใหม่ ขอให้เร่งใช้อำนาจพนักงานฝ่ายปกครองข้าควบคุมการสวบสวนของตำรวจในคดีที่ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม นอกจากนี้นายฐานะพล ยังแฉว่ามีการเสนอเงิน 1.5ล้านแลกกับการถอนแจ้งความคดีอาญากับเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าวด้วย

 

ล่าสุด เมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน  ๒๕๖๓ นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่  ทำหนังสือถึง นายฐานะพล เสาวคนธ์ เรื่อง กรณีการขอความเป็นธรรมและขอให้มีการคุ้มครองพยานและครอบครัว  มีเนื้อหาดังนี้

 

ตามที่ท่านได้ร้องขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เร่งดำเนินการใช้อำนาจเข้าควบคุมการสอบสวน กรณีนางพิมพ์ชนก ปทุม ภรยของท่านถูกจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวภูธรแม่อายจังหวัดเชียงใหม่กระทำการข่มขู่รีดทรัพย์และกักขัง เพื่อเรียกรับเงิน จำนวน ๓๐๐,๐๐๐ บาท โดยได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๕ เพื่อให้ดำเนินคดีอาญากับตำรวจผู้กระทำผิดทุกนายแล้ว แต่ปัจจุบันท่านเห็นว่าการสอบสวนของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๕ เป็นไปด้วยความล่าช้า ท่านเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงมาร้องขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับการคุ้มครองพยานและครอบครัวท่าน ความละเอียดแจ้งแล้ว นั้น

 

จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับเรื่องดังกล่าวและผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่พิจารณาใช้อำนาจเข้าควบคุมการสอบสวนคดีดังกล่าวตามข้อบังคับกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยระเบียบการดำเนินคดีอาญาพ.ศ. ๒๕๒๓ และที่แก้ไขเพิ่มติม ข้อ ๑๒.๔ โดยมอบหมายให้พนักงานฝ่ายปกครองเข้าร่วมการสอบสวนกับพนักงานฝ่ายตำรวจ และมอบหมายให้อำเภอแม่อายดำเนินการตามขั้นตอนการพิจารณาขอใช้มาตรการในการคุ้มครองพยานและครอบครัว

 

ทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร ได้มีคำสั่งตร.ที่๔๑๙/๕๖ ห้ามพนักงานสอบสวนส่งสำนวนให้ฝ่ายปกครองเมื่อมีการร้องเรียนต้องขออนุญาตก่อน ซึ่งขัดแย้งกับข้อบังคับกระทรวงมหาดไทยปี๒๕๒๓ ทำให้เกิดปัญหางานสอบสวนที่จะอำนวยความยุติธรรมกับประชาชนมาโดยตลอด