หนุ่มใหญ่บุกร้องผู้ว่าฯ-ศูนย์ดำรงธรรมเชียงใหม่ถามความคืบหน้ากรณีขอให้ฝ่ายปกครองเข้าคุมการสอบสวนคดีแก๊ง7ตำรวจสภ.แม่อายอุ้มภรรยาและลูกไปกักขังรีด3แสน

หนุ่มใหญ่บุกร้องผู้ว่าฯ-ศูนย์ดำรงธรรมเชียงใหม่ถามความคืบหน้ากรณีขอให้ฝ่ายปกครองเข้าคุมการสอบสวนคดีแก๊ง7ตำรวจสภ.แม่อายอุ้มภรรยาและลูกไปกักขังรีด3แสน

เมื่อวันที่ 13 พ.ค.2563 มีความคืบหน้าจากกรณีนายฐานะพล เสาวคนธ์ เจ้าของร้านอาหารในพื้นที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ร้องเรียนว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ รีดเงิน 3 แสนบาท นางพิมพ์ชนก ประทุม ภรรยา อายุ 22 ปี พร้อมลูกอายุ1 ขวบ  ที่ถือบัตรสีชมพู (คนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย)  แลกกับการปล่อยตัวในข้อหานำพาต่างด้าว ขณะเดินทางกลับจากงานแต่งญาติที่ อ.แม่อาย  ต่อมานายฐานะพล ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.ต.ท.ประจวบ วงค์สุข ผบช.ภ.5 โดยมีหลักฐานเป็นสลิปการโอนเงิน และหลักฐานการถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารหลายครั้งรวม 3 แสนบาท  ต่อมาหลังมีการร้องเรียนได้มีการสั่งให้ตำรวจ สภ.แม่อาย 5 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน และตั้งคณะกรรมการสอบสวน

 

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 13 พ.ค.นายฐานะพล พร้อมภรรยา ได้เดินทางเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงใหม่ หลังจากไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากเงิน 3 แสนบาท ที่ถูกตำรวจชุดจับกุมรีดทรัพย์ไปนั้น ยังไม่ยอมคืนให้ ขณะเดียวกันได้มีบุคคลหนึ่งอ้างว่ารู้จักผู้ใหญ่หลายคนในพื้นที่ อ.แม่อาย ได้โทรศัพท์ติดต่อเข้ามาเสนอเงินให้ 1,500,000 บาท เพื่อให้กลับคำให้การว่าเป็นความเข้าใจผิด  แต่นายฐานะพล ไม่ยินยอม  และอยากให้ทางตำรวจดำเนินคดี กับตำรวจชุดจับกุมเพิ่มอีก 2 นาย ที่ยังลอยนวล เพราะได้ร่วมกระทำผิดด้วยกันทั้งหมด 7 นาย

ฐานะพล เสาวคนธ์

นายฐานะพล เปิดเผยว่าเดินทางมาตามเรื่องที่ร้องเรียนไว้ กรณีถูกตำรวจแม่อายอุ้มรีดทรัพย์ ซึ่งต่อมามีการร่างกลับคำให้การตนเพื่อแลกกับเงินจำนวน 1.5 ล้านบาท แต่ตนไม่ยอม ตนอยากได้เงินที่ถูกเอาไปจำนวน 3 แสนบาทเท่านั้น ซึ่งทางศูนย์ดำรงธรรมเชียงใหม่ แจ้งว่าเรื่องที่ร้องเรียนอยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว รอให้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเซ็นอนุญาตให้เข้าร่วมการสอบสวนอยู่ นอกจากนี้ยังได้ส่งเรื่องไปที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่อาย ให้ร่วมดำเนินการเรื่องดังกล่าวด้วย โดยเฉพาะกรณีของอดีตแม่หลวงที่พัวพันเรื่องนี้

 

“อยากฝากถึงผู้บังคับบัญชาทุกท่านว่า ที่ท่านบอกจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ตอนนี้ความเป็นธรรมยังมาไม่ถึงผมเลย ตอนนี้ผมลำบากมาก ทำอะไรก็ไม่ได้ เพราะเรื่องสถานการณ์โควิด ลูกก็ยังเล็กอยู่ เงินทุนก็มีอยู่ก้อนหนึ่งแต่ถูกตำรวจเอาไป ที่ผมต้องการคือได้เงิน 3 แสนคืน คนที่กระทำผิดก็ดำเนินคดีไปไม่ต้องมายุ่งกับตนแล้ว เกือบสี่เดือนมาแล้วยังไม่มีหมายเรียกหมายจับอะไรเลยทั้งๆที่หลักฐานชัดเจน”นายฐานะพล กล่าว

 

ทั้งนี้นายฐานะพล ได้ไปร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงใหม่ ให้ใช้ฝ่ายปกครองอำนาจตามข้อบังคับกระทรวงมหาดไทยปี 2523 กรณีที่มีการร้อนเรียนฝ่ายปกครองเข้ามาตรวจสอบคุมงานสอบสวน  ต่อมา เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2563 ได้รับหนังสือตอบกลับมาว่าได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ผลเป็นประการใด จะแจ้งให้ทราบต่อไป

ฐานะพล เสาวคนธ์

โดยเมื่อวันที่ 10 เม.ย . 2563 นายวิรุฬ พรรณเทวี รองผู้ราชการจังหวัดเชียงใหม่ รักษาราชการแทน ผู้ว่าฯเชียงใหม่  ทำหนังสือถึง  ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า ด้วยศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ใด้รับเรื่องร้องทุกข์จากนางพิมพ์ชนก ประทุม กรณีผู้ร้องได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๕ ให้ตำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่อาย ที่กระทำการข่มขู่ รีดทรัพย์และกักขังผู้ร้อง แต่ปัจจุบันผู้ร้องเห็นว่าการสอบสวนเป็นไปด้วยความล่าช้า ผู้ร้องเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงขอผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พิจารณาเข้าควบคุมการสอบสวนของพนักงานสอบสวนตามข้อบังคับกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยระเบียบการดำเนินคดีอาญา พ.ศ. 2523และที่แก้ไขเพิ่มเติม รายละเอียดปรากฎตามสิ่งที่ส่งมาด้วย

จังหวัดเชียงใหม่พิจารณาแล้ว เห็นว่าเพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ร้องในเบื้องตัน จึงขอให้ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เร่งรัดติดตามการตำเนินคดีดังกล่าว  ผลเป็นประการใดให้รายงานให้จังหวัดทราบ ภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้