ซักฟอก บ่อน ตู้ม้า ผับ บาร์ผิดกฎหมายนายกฯ ไม่รู้ ผบช.รับส่วยสินบนหรืออย่างไร?-พันตำรวจเอกวิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร
ซักฟอก บ่อน ตู้ม้า ผับ บาร์ผิดกฎหมายนายกฯ ไม่รู้ ผบช.รับส่วยสินบนหรืออย่างไร?
พันตำรวจเอกวิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร
ทุกฝ่ายต้องยอมรับความจริงว่า สังคมไทยในขณะนี้มี ความเปราะบาง อันเนื่องมาจากปัญหาความขัดแย้งในหมู่ประชาชนระหว่าง คนความคิดเก่า กับ ความคิดใหม่ และรุนแรงขึ้นทุกขณะ!
ไม่ว่าบุคคลนั้นจะมี อายุมากหรือน้อยเท่าใด ก็ไม่สำคัญ เท่ากับความคิดของเขาเกี่ยวกับชาติบ้านเมืองและสังคมเป็นไปในทิศทางใด?
คนรุ่นเก่า แต่หากมีแนวคิดที่ก้าวหน้า เป็นประชาธิปไตย สอดคล้องกับเสียงเรียกร้องต้องการของประชาชนส่วนใหญ่และ ระบบการปกครองที่ก้าวหน้าแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างแท้จริง
ก็เรียกว่าเป็นคน ความคิดใหม่
ในทางกลับกัน หากเป็นคนหนุ่มสาว แต่มีความคิดว่า อยู่กันแบบนี้ก็ดีแล้ว!
หรือแม้กระทั่ง ย้อนยุค นิยมชมชอบ ระบอบเผด็จการ ไม่ว่าจะโดย ทหาร ที่มาจากการยึดอำนาจ
หรืออาจเป็นรัฐบาลพลเรือนที่ นายกรัฐมนตรีเป็น “ผู้มียศทางทหาร”
ซ้ำไม่ได้มีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน! แต่ถูกรัฐธรรมนูญที่ร่างกันแบบ พิสดาร ซ่อน เงื่อนไขเผด็จการ ให้ วุฒิสมาชิกแต่งตั้ง สามารถเลือกจากผู้ไม่ได้เป็น ส.ส.ได้
ก็เรียกว่า ความคิดเก่า
ความคิดสองกระแสหลักนี้กำลังปะทะกัน ในโลกโซเชียลแทบทุกประเด็น อย่างดุเดือดรุนแรงยิ่ง
หลายแห่งก็เริ่มมีการแสดงออกกันทางกายภาพในรูปของการชุมนุมเปิดเวทีอภิปรายในสถานศึกษา โดยนิสิตนักศึกษาแต่ละมหาวิทยาลัย ลามไปถึงโรงเรียนมัธยม ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่พบเห็นมาก่อน แม้กระทั่งในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ คนเสื้อแดง หรือ กปปส. ช่วงกว่าสิบปีที่ผ่านมา
ปรากฏการณ์ดังกล่าว ไม่ได้เป็นเรื่องของ พรรคอนาคตใหม่ อย่างที่คนหัวเก่าหลายคนหลงเข้าใจแต่อย่างใด
หากแต่เป็นปัญหา อนาคตไทย วัยรุ่นและคนหนุ่มสาวผู้ตื่นรู้ว่า เขารวมทั้งญาติพี่น้องและประชาชนคนยากจนส่วนใหญ่ไม่ควรจะต้อง ทนอยู่ ในสังคมที่ไม่เป็นประชาธิปไตย
ไม่มีความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ การเมือง หรือแม้กระทั่ง ความยุติธรรมตามกฎหมาย เช่นนี้อีกต่อไป
เหล่านี้เป็นสัญญาณที่ผู้มีอำนาจควรตระหนักว่า ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศต้องการการเปลี่ยนแปลงใน ระดับโครงสร้าง ไม่ใช่เพียงการปรับปรุงพัฒนาหรือโครงการประชานิยมสารพัดแต่อย่างใด
ซึ่งในที่สุด สถานการณ์อาจพัฒนาไปถึงขั้นต้อง ร่างรัฐธรรมนูญกันใหม่ เพื่อให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงเลยทีเดียว!
ทุกคนต้องจับตาดูกันต่อไปว่า ปรากฏการณ์ที่เริ่มเกิดขึ้นขณะนี้ จะจบลงแบบเดิมหรือไม่?
ในการอภิปรายไม่วางใจรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 ก.พ.63 นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.จังหวัดอุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นอภิปราย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตอนหนึ่งสรุปว่า
สังคมไทยขณะนี้มีปัญหาแหล่งอบายมุขเกิดขึ้นทั่วประเทศมากมาย ตั้งแต่ในจังหวัดอุบลฯ ไปจนกระทั่ง กรุงเทพมหานคร
บ่อนการพนัน ตู้ม้า และแหล่งอบายมุขผิดกฎหมายสารพัดเต็มไปหมด
โดยบอกว่า ที่ผ่านมาเมื่อได้นำปัญหานี้มาอภิปรายในสภา ไม่ว่าจะเป็น การปรึกษาหารือ กับประธาน หรือการ ตั้งกระทู้ ถามให้นายกรัฐมนตรีชี้แจง
บ่อนพนันรูปแบบต่างๆ ในแต่ละพื้นที่ก็จะปิดลงระยะเวลาหนึ่ง แล้วก็กลับมาเปิดใหม่ วนเวียนอยู่เช่นนี้ร่ำไป!
ได้ยกตัวอย่าง ในกรุงเทพมหานครก็เช่น ซอยโชค ใกล้ กองบังคับการตำรวจกองปราบ ที่อยู่แยกลาดพร้าว
ห่างกันแค่ขับ รถตำรวจสายตรวจรุ่นใหม่สุดทันสมัย ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที!
และที่ ไม่ได้นำมากล่าวถึงก็อีกมากมาย
ต่อการอภิปรายของ นายสมคิด เชื้อคง เรื่องนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ลุกขึ้นตอบชี้แจงแบบ แผ่นเสียงตกร่อง ว่า
รัฐบาลไม่ได้เพิกเฉยละเลยต่อปัญหาดังกล่าวแต่อย่างใด?
พร้อมแสดงรายงานจากตำรวจว่า ผลการจับกุมการพนันในแต่ละเดือนแต่ละปีมีจำนวนมาก อธิบายด้วยสถิติตัวเลขเป็นหลักฐานยืนยัน
ขอเรียนว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้ตอบให้ตรงประเด็นที่ผู้แทนราษฎรอภิปรายเลย
จะเรียกว่า ถามช้าง ตอบม้า ก็ได้
ส.ส.สมคิดบอกว่า ประเทศไทยขณะนี้มีปัญหาแหล่งอบายมุข ทั้งบ่อนการพนัน ตู้ม้า ยาเสพติดมากมาย
แม้กระทั่งใกล้หน่วยตำรวจทั้งพื้นที่สถานี และ “กองปราบ” ก็ยังเปิดบ่อนใหญ่ได้!
ซึ่งท่านก็ควรเรียก ผบ.ตร.มาถามว่าความจริงเป็นเช่นไร?
รวมทั้งยัง ไม่ควรเชื่อ แต่ต้องสั่งให้ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือทหาร รายงานมาอีกทางว่า มีจริงตามที่ ส.ส.สมคิดอภิปราย และข้อมูลตรงกับที่ ผบ.ตร.ชี้แจง หรือไม่?
ทั้งในจังหวัดอุบลราชธานี รวมทั้งที่ซอยโชคชัย รวมทั้งอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศ
และหากได้ข้อมูลว่าบ่อนการพนัน ตู้ม้า มีอยู่ในพื้นที่ต่างๆ จริง ตำรวจระดับใดคือผู้ที่ผู้รับผิดชอบบ้าง ตั้งแต่สถานี กองบังคับการ ผู้บัญชาการ
ไปจนถึงตัว ผบ.ตร.เอง รวมทั้ง รอง ผบ.ตร. และ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ผู้รับผิดชอบที่มีอยู่มากมาย!
และจะจัดการดำเนินคดีข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามที่ท่านได้เคยออกคำสั่ง คสช.ขู่ไว้หลังยึดอำนาจ รวมทั้งลงโทษทางวินัยไล่ออก ปลดออก ตัดหรือลดขั้นเงินเดือน หรือใช้อำนาจบริหารด้วยการ สั่งพักราชการ (งดจ่ายเงินเดือน) หรือ สำรองราชการ (เก็บเข้ากรุ) อย่างไร?
ไม่ใช่บอกว่า รัฐบาลมีผลการจับกุมแต่ละเดือนแต่ละปีเท่านั้นเท่านี้ ตามที่ตำรวจส่งข้อมูลและเอกสารไปให้ท่านอ่านชี้แจงต่อสภาเป็น “นกแก้วนกขุนทอง” แต่อย่างใด?
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ทราบจริงๆ หรือว่า ปัจจุบันปัญหาแหล่งอบายมุขผิดกฎหมาย ทั้งหวยใต้ดิน บ่อนการพนัน ตู้ม้า ไปจนกระทั่งผับ บาร์ และสถานบันเทิงเถื่อนหรือเปิดเกินเวลาที่ก่อให้เกิดปัญหาเป็นแหล่งเสพและค้ายาเสพติดนั้น
ปัจจุบันมีอยู่ในทุกจังหวัดใหญ่ หรืออาจกล่าวได้ว่าแทบทุกอำเภอในประเทศไทย!
ซึ่งหากท่านได้ตรวจสอบควบคุมให้ตำรวจทุกระดับตั้งแต่ผู้บัญชาการ ผู้บังคับการ และผู้กำกับสถานี ได้ทำหน้าที่ของตนตามกฎหมายอย่างจริงจัง
ไม่ปล่อยให้มีพฤติกรรม รับส่วย สินบน จากตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชาระดับต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็น ในวันประชุมประจำเดือน หรือเมื่อ ถูกเรียกไปกำชับการปฏิบัติราชการ ที่หัวหน้าสถานีทุกแห่งต้องถือ ซองใส่เงิน เป็นปึกๆ
หนาบางต่างกันไปตามตำแหน่งหลักหรือรอง แยกเป็นช่องๆ ไว้ในสมุดจดบันทึกที่ถือติดตัวเป็นประจำ นำไป เข้าคิว รอยื่นให้ผู้บังคับบัญชา ห้องนั้นห้องนี้
รวมทั้งในโอกาสขึ้นปีใหม่ วันเกิด หรือย้ายมารับตำแหน่ง ผสมกับกิจกรรม ประกวดพระ แข่งกอล์ฟ กีฬา กายกรรมประจำปีต่างๆ โดย “อ้าง” ว่าเป็นการหาทุนเพื่อสวัสดิการตำรวจ?
แม้กระทั่งกฐิน ผ้าป่า ของผู้บังคับบัญชาและลูกเมีย ที่พ่อค้า ผู้ประกอบธุรกิจอบายมุข เจ้ามือหวย นายบ่อน ก็ใช้โอกาสเหล่านี้มาร่วมแจมด้วย
ทำกันจนชิน แทบจะกลายเป็น “ประเพณีตำรวจ” ไปแล้ว
ทั้งที่เบื้องหลังแท้จริงคือ การทุจริตฉ้อฉล หาประโยชน์ใส่ตน แทบทั้งสิ้น
โดยเฉพาะการ รับส่วย แท้จริงก็คือ การรับสินบน เพื่อไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบหรือสั่งการให้มีการจับกุมลงโทษอะไร
ผิดกฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา 103 มีโทษ จำคุกถึงสามปี
รวมทั้งเป็นช่องทางนำไปสู่ การค้า และ การได้มาหรืออยู่ในตำแหน่งเดิม ของตำรวจแทบทุกคนเมื่อถึงฤดู แต่งตั้งโยกย้าย อีกด้วย!.
ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์ คอลัมน์ เสียงประชาชนปฏิรูปตำรวจ: ฉบับวันที่ 2 มี.ค. 2563