อ้างเป็นบุคคลไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง!พิธีกรNEWS1ร้องอสส.ถูกตร.อ่างทองเร่งออกหมายจับคดีหมิ่นฯสัมภาษณ์เรื่องโกงอาหารผู้ต้องโทษ

อ้างเป็นบุคคลไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง!พิธีกรNEWS1ร้องอสส.ถูกตร.อ่างทองเร่งออกหมายจับคดีหมิ่นฯสัมภาษณ์เรื่องโกงอาหารผู้ต้องโทษ

เมื่อวันที่ 12 ก.ย.2562  ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ  นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที พิธีกรรายการสภากาแฟ ช่อง NEWS1 (เดิม ASTV) พร้อมทนายความ เดินทางมายื่นร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด(อสส.) กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง โดยพนักงานสอบสวน ได้ใช้เอกสารที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงดำเนินคดี และใช้เงื่อนไขทางกฎหมายเร่งรัดอย่างผิดปกติ โดยทางทนายความได้นำเอกสาร หลักฐานต่างๆ มาประกอบด้วย โดยมีนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้แทนรับเรื่อง

 

นายยุทธิยง  กล่าวว่า จากการทำรายการสภากาแฟของสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ซึ่งเป็นการสนทนาสัมภาษณ์ชมรมผู้ค้าอาหารดิบและตัวแทนผู้ค้าอาหารส่งเข้าเรือนจำ ได้ให้สัมภาษณ์เล่าความจริงของธุรกิจการส่งอาหารดิบเข้าสู่เรือนจำ เพื่อให้กับผู้ต้องโทษที่อยู่ในเรือนจำภาคกลาง มีการออกอากาศไปในช่วงเดือนมีนาคม ปี 2559 จนทำให้ทางกระทรวงยุติธรรม สมัยของ พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ให้ DSI เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อกระบวนการจัดซื้ออาหารดิบส่งเรือนจำในปี 2559 แต่ปรากฏว่าตนกลับถูกออกหมายจับฐานหมิ่นประมาท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง พนักงานสอบสวนได้ให้ข้อมูลกับศาลอ่างทองในการออกหมายครั้งนั้นว่า ตนเป็นบุคคลไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ตามหาตัวแล้วไม่พบตัวจึงต้องออกหมายจับตั้งไว้

 

นายยุทธิยง กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ในกระบวนการออกหมายจับสื่อมวลชน ผู้ดำเนินการรายการโทรทัศน์ ที่จัดรายการออกอากาศถ่ายทอดสด เป็นประจำทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ มาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทองกลับไปเร่งรัดออกหมายจับเอาไว้อย่างผิดปกติวิสัย ซึ่งเป็นคดีหมิ่นประมาทที่กลุ่มผู้สูญเสียผลประโยชน์ได้ไปดำเนินการแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองอ่างทอง แต่พนักงานสอบสวนได้ให้ข้อมูลกับศาลจังหวัดอ่างทองในการออกหมายจับครั้งนั้นว่าตนเป็นบุคคลไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ตามหาตัวแล้วไม่พบตัวจึงต้องออกหมายจับ ทั้งๆ ที่ทนายความได้ประสานงานให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกมาอีกครั้ง การดำเนินคดีของตำรวจจังหวัดอ่างทองในครั้งนี้ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่นักกฎหมาย

 

“ซึ่งผลของการทำรายการสภากาแฟ เรื่องธุรกิจการจัดซื้อจัดจ้างอาหารผู้ต้องโทษในเรือนจำ อาหารของผู้มีกรรม คนบาปยังแบ่งกิน ทำให้หน่วยงานของกระทรวงยุติธรรมได้เข้ามาดำเนินการตรวจสอบและปรับปรุงการจัดซื้อจัดจ้างให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ผู้ต้องโทษในเรือนจำได้รับอาหารที่มีคุณภาพ ต่อการดำรงชีวิตเพื่อให้รัฐคำนึงถึงสิทธิที่ผู้ต้องโทษ พึงได้รับอาหารตามสมควรในการดำรงชีวิตตามหลักสิทธิมนุษยชน”นายยุทธิยง กล่าว

 

ด้านนายโกศลวัฒน์ เปิดเผยหลังรับเรื่องว่า จะดำเนินการตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ที่ร้อง เพื่อให้ความเป็นธรรม

 

ทั้งนี้เมื่อช่วงค่ำ วันที่ 9 พ.ค.2560  ร.ต.ท.เชวง พดด้วง รอง สว.กก.1 บก.ป. นำกำลังจับกุมตัว นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที อายุ 51 ปี พิธีกรรายการ “สภากาแฟ สภาประชาชน” ทาง เอเอสทีวี นิวส์วัน ได้ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งภายใน ซ.ลาดพร้าว 122 (ซ.มหาดไทย) แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม. ตามหมายจับศาลจังหวัดอ่างทอง ลงวันที่ 11 ม.ค. 2560 ข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษร ที่ทำให้ปรากฏไม่ว่าวิธีใดๆ

ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที
cr:ผู้จัดการออนไลน์

โดย นายยุทธิยง กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ตนได้จัดรายการ “สภากาแฟ” ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ NEWS 1 แล้วได้เชิญกลุ่มชมรมนักธุรกิจส่งอาหารเข้าเรือนจำกลางจังหวัดอ่างทอง พร้อมให้ข้อมูลมีกลุ่มผู้ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตการส่งอาหารเข้าเรือนจำ จากนั้นมีการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องหลายราย หลังจากนั้น ตนได้ถูกฟ้องร้องจากผู้เกี่ยวข้องที่ถูกกล่าวหาดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ ได้มีหมายเรียกให้ตนมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว 1 ครั้ง ตนได้มาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนไปแล้ว หลังจากนั้น ยังไม่ได้มีการออกหมายเรียกครั้งที่ 2 จนกระทั่งมีการออกหมายจับดังกล่าวในวันนี้

 

“ผมไม่หนักใจในการทำหน้าที่สื่อมวลชนอย่างสุจริตเพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่ไม่เข้าใจว่ากระบวนการออกหมายจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ เหตุใดถึงได้เร่งรัดการออกหมายจับดังกล่าว ทั้งที่ผมได้ถือว่าเป็นบุคคลสาธารณะ

 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง รับตัวไปดำเนินคดีต่อไป”นายยุทธิยง กล่าว