ศาลนัดพร้อมสืบพยาน’คดีฤทธิรงค์ ชื่นจิตร’เหยื่อตร.ซ้อมทรมาน ฟ้องแพ่งสตช.เรียกค่าเสียหาย20 ล้าน

ศาลนัดพร้อมสืบพยาน’คดีฤทธิรงค์ ชื่นจิตร’เหยื่อตร.ซ้อมทรมาน ฟ้องแพ่งสตช.เรียกค่าเสียหาย20 ล้าน

เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2564 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ นัดพร้อมเพื่อกำหนดวันนัดสืบพยาน ในคดีหมายเลขดำ พ.949/2560 กรณีนายฤทธิรงค์ ชื่นจิตร กรณีเหยื่อตำรวจซ้อมทรมานฟ้องแพ่ง สตช. เรียกค่าเสียหาย โดยกำหนดนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์ (นายฤทธิรงค์ ชื่นจิตร) จำนวน 4 ปาก วันที่ 18 เม.ย. 2565 และกำหนดนัดสือบพยานจำเลย (สตช.) จำนวน 3 ปาก วันที่ 25 เม.ย. 2565 นี้

สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2552 นายฤทธิรงค์ ชื่นจิตร ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ทำร้ายทรมานร่างกาย เพื่อบังคับให้รับสารภาพในคดีวิ่งราวทรัพย์หญิงคนหนึ่งในพื้นที่ ซึ่งนายฤทธิรงค์ไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดดังกล่าว ต่อมานายฤทธิรงค์ได้ฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาต่อนายตำรวจทั้ง 7 นาย และต่อมาเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2560 นายฤทธิรงค์ ชื่นจิตร ฟ้องร้องดำเนินคดีต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ในข้อหาละเมิด เรียกค่าเรียกหาย พ.ร.บ.ความละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 และเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 20,800,000 บาท กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัด ให้รับผิดชอบและชดใช้ค่าเสียหาย

ระหว่างการพิจารณาคดีครั้งนี้ ศาลได้กล่าวซักถามต่อพนักงานอัยการเชิงว่า จำเลยได้ติดต่อขอชดใช้ค่าเสียหายกับโจทก์หรือไม่ เนื่องจากคดีอาญามีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว โดยถือว่าข้อเท็จจริงทางคดีเป็นที่ยุติว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นจริง และจำเลยจะมีนโยบายอย่างไรหรือไม่ เพื่อไม่ให้ผู้เสียหายได้รับความกระทบกระเทือนต่อจิตใจซ้ำๆ อีก โดยพนักงานอัยการได้แจ้งกับศาลว่า จะขอนำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษาหารือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป

ด้าน นายปรีดา นาคผิว ทนายความมูลนิธิผสานวัฒนธรรม กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีตัวอย่างที่จะทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องควบคุมกำกับดูแลให้เจ้าหน้าที่ของตนไม่ให้มีการซ้อมทรมานผู้ต้องสงสัย โดยเฉพาะเมื่อตำรวจคือผู้รักษากฎหมาย ก็ไม่ควรเป็นอาชญากรเสียเอง ซึ่งคดีหรือกรณีลักษณะนี้มีจำนวนมาก ส่วนค่าเสียหาย 20 กว่าล้านบาทในคดีนี้แล้วแต่ศาลจะพิจารณา แต่ข้อเท็จจริงปรากฏชัดแล้วว่า ตำรวจได้ซ้อมทรมานจริง หลังคำพิพากษาศาลอาญาถึงที่สุด

ทั้งนี้ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ในฐานะองค์กรสิทธิมนุษยชนที่ให้ความช่วยเหลือเหยื่อจากการถูกซ้อมทรมาน รวมถึงกรณีของนายฤทธิรงค์ด้วยนั้น มูลนิธิฯ ยังได้ดำเนินการพลักดันร่างพรบ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. … มาโดยตลอดอีกด้วย จึงขอเชิญชวนสื่อมวลชนและผู้ที่สนใจร่วมกันติดตามการดำเนินคดีแพ่งของศาลแพ่งกรุงเทพใต้ว่า ท้ายที่สุดแล้วศาลแพ่งจะมีคำพิพากษาอย่างไร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องชดใช้ค่าเสียหายจากการต้องทนทุกข์ทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจจากการถูกซ้อมทรมานมากน้อยเพียงใด

ขอบคุณ:มูลนิธิผสานวัฒนธรรม