พิลึก!สตช.ให้อดีตผู้การฯเลยกับพวกอีก4คนกลับเข้ารับราชการเหมือนเดิมเหตุสอบวินัยร้ายแรงโกงเงินสหกรณ์ไม่แล้วเสร็จ

พิลึก!สตช.ให้อดีตผู้การฯเลยกับพวกอีก4คนกลับเข้ารับราชการเหมือนเดิมเหตุสอบวินัยร้ายแรงโกงเงินสหกรณ์ไม่แล้วเสร็จ

 

เมื่อวันที่ 18 ส.ค.2563 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)กล่าวถึงกรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่ง ตร.ที่ 421/2563 ให้ข้าราชการตำรวจกลับคืนสู่ฐานะเดิมและกลับเข้ารับราชการ ว่า ในส่วนของการดำเนินคดีทางอาญาและการดำเนินทางวินัยของข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้อง จากกรณีสืบเนื่องคดีที่สังคมให้ความสนใจเมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา ในกรณีของประชาชนและกลุ่มข้าราชการตำรวจ ภ.จว.เลย มีหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมการทุจริตในโครงการกู้รวมหนี้ สหกรณ์ออมทรัพย์ ภ.จว.เลย

ประเด็นที่หนึ่งในส่วนของการดำเนินคดีอาญา ทางคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนได้ดำเนินการสอบสวนเรื่อยมา กระทั่งมีความเห็นสรุปสำนวนสั่งฟ้องผู้ต้องหาหลายราย ในความผิดฐาน “ ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” ต่อพนักงานอัยการ โดยคดียังอยู่ในชั้นพิจารณาของพนักงานอัยการ

ประเด็นที่สอง ในส่วนของการดำเนินการทางวินัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.เลย กับพวกรวม 5 นาย กรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง โดยต้องหาคดีอาญาข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตาม พ.ร.บ.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 4, 5 และ 12 และถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้วนั้น

ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ส.ค.2563 คณะกรรมการสอบสวนได้ดำเนินการสอบสวนเสร็จสิ้น มีความเห็นมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจากการพิจารณาโดยกองวินัย พบว่าข้อเท็จจริงยังไม่เพียงพอต่อการพิจารณาสั่งการ จึงได้มีคำสั่งให้คณะกรรมการสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติม และรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน โดยคณะกรรมการสอบสวนได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเรื่อยมาโดยตลอด หากแต่การสอบพยานบุคคลยังไม่เสร็จสิ้น

“ซึ่งการพิจารณาสั่งการดังกล่าว ล่วงเลยตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด ตามมาตรา 87 วรรคสอง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ประกอบระเบียบ ก.ตร.ว่าด้วยเหตุจำเป็นไปในการขยายระยะเวลาการพิจารณาสั่งการทางวินัย พ.ศ.2547 ข้อ 5 เนื่องด้วยกฎหมายกำหนดไว้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงมีคำสั่งให้ พล.ต.ต.สุทิพย์ กับพวก รวม 5 นาย กลับคืนสู่ฐานะเดิม”

รองโฆษก ตร.กล่าวต่อว่า แต่ข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องยังคงเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีอาญาซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาของพนักงานอัยการตามที่ได้นำเรียนข้างต้น อย่างไรก็ตาม หากผลการสอบสวนเพิ่มเติม ในคดีวินัยส่งกลับมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว กองวินัยจะพิจารณามีความเห็นตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 421/2563 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจกลับคืนสู่ฐานะเดิมและกลับเข้ารับราชการ จำนวน 5 ตำแหน่ง ได้แก่ พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช ผบก.ภ.จ. เลยผู้ถูกกล่าวหาที่ 1, พ.ต.อ.เฉลิมพล ยอดประทุม ผกก.อก.ภ.จ.หนองบัวลำภู ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2, พ.ต.อ.ชยวุฒิ จันทรสมบูรณ์ รอง ผบก.ภ.จ.พังงา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3, พ.ต.อ.อุดร ชูก้าน ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน ภ.จ.เลย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4,  พ.ต.ท.กฤษฎา นิติพจน์ เมื่อครั้ง สว.อก.สภ.ชุมแห จ.ขอนแก่น ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5

คำสั่งดังกล่าวระบุว่า มีกรณีถูกสอบสวนตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 478/2561 ลงวันที่ 17 ส.ค.2561 แก้ไขเพิ่มเติมตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 523/2561 ลงวันที่ 17 ก.ย.2561 และตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 143/2561 ลงวันที่ 23 มี.ค.2561 โดยต้องหาคดีอาญาข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 4, 5 และ 12 ซึ่ง พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลรัช และ พ.ต.อ.เฉลิมพล ยอดประทุม ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 439/2561 ลงวันที่ 17 ส.ค.256 ตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค.2561 เป็นต้นไป

ส่วน พ.ต.อ.ชยวุฒิ จันทร์สมบูรณ์, พ.ต.อ.อุดร ชูก้าน และ พ.ต.ท.กฤษฎ นิติพจน์ ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 524/2561 ลงวันที่ 17 กันยายน 2561 และแก้ไขตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ลงวันที่ 7 ก.ย.2561 ตั้งแต่วันที่ 17ก.ย.2561 เป็นต้นไป แต่เนื่องจากการพิจารณาทางวินัยยังไม่แล้วเสร็จภายในกำหนดระยะเวลาตามมาตรา 87 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 จึงให้ พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช กับพวกรวม 5 นาย กลับคืนสู่ฐานะเต็มก่อน และให้กลับเข้ารับราชการ

โดย พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช ในตำแหน่ง รอง ผบช.สพฐ.ตร., พ.ต.อ.เฉลิมพล ยอดประทุม ในตำแหน่ง ผกก.อก.ภ.จ.บึงกาฬ, พ.ต.อ.ชยวุฒิ จันทร์สมบูรณ์ ในตำแหน่ง รอง ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช, พ.ต.อ.อุดร ในตำแหน่งผู้กำกับการ ฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการกฎหมายและคดี ตำรวจภูธรภาค 4, พ.ต.ท. กฤษฎา ในตำแหน่งสารวัตรฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการกฎหมายและคดี ตำรวจภูธรภาค 4 และให้ถือว่าไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างถูกสอบสวน นับแต่วันที่ 9 ส.ค.2563 จนกว่าการพิจารณาสั่งการจะเสร็จสิ้น และมีคำสั่ง ณ วันที่ 13 ส.ค.2563