สาเหตุอาชญากรรมที่ตำรวจผู้ใหญ่ห้ามไม่ให้ผู้ต้องหาพูดกับสื่อ? – พันตำรวจเอกวิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร

สาเหตุอาชญากรรมที่ตำรวจผู้ใหญ่ห้ามไม่ให้ผู้ต้องหาพูดกับสื่อ? – พันตำรวจเอกวิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร

ยุติธรรมวิวัฒน์

           การก่อเหตุชิงทรัพย์ของนายประสิทธิชัย เขาแก้ว  ผอ.โรงเรียนวัดโพธิ์ชัย จังหวัดสิงห์บุรี ที่เป็นเหตุให้มีผู้ถูกยิงเสียชีวิตถึง 3 คนนั้น

สิ่งที่ประชาชนอยากรู้และได้ยินในขณะนี้ คงไม่ใช่เรื่องที่ตำรวจ คนไหน หรือ หน่วยใด เป็นพระเอกในการสืบสวนและจับกุม ควรได้รับการปูนบำเหน็จเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งกันแต่อย่างใด?

รวมทั้งการตั้ง คำถามแบบเสียเวลา ของ บางสื่อ ว่า  พยานหลักฐานแน่นหนา อาจสามารถต่อสู้คดีจนหลุดรอดไปได้หรือไม่

เนื่องจากในทางคดี นอกจากนายประสิทธิชัยจะได้ให้การรับสารภาพแล้ว ก็ยังมีของกลางและหลักฐานต่างๆ อยู่มากมาย

ซึ่ง บางอย่างก็ไม่ต้องไป “สืบ” หรือ “งมหา” ให้เป็นข่าวและเสียเวลามากมายโดยไม่จำเป็นแต่อย่างใด?             

หลักในการสืบค้นหาความจริงทุกเรื่อง โดยเฉพาะเกี่ยวกับการกระทำผิดอาญานั้น

แท้จริงไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการที่รัฐบาลและเจ้าพนักงานผู้รับผิดชอบต้อง ให้ความสนใจ ทุ่มเทเวลาและเงินงบประมาณในการตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ที่ปรากฏหรือสันนิษฐานไว้

รวมทั้งที่ได้รับแจ้งข้อมูลเบาะแสจากประชาชนพลเมืองดีในทุกเรื่องไปเรื่อยๆ อย่าง ไม่หยุดยั้ง

ซึ่งถ้ารัฐและผู้รับผิดชอบทุกระดับสนใจและควบคุมให้ผู้ปฏิบัติทำกันอย่างต่อเนื่องจริงจัง

สาเหตุอาชญากรรม

อาจกล่าวได้ว่า ปัจจุบัน คดีทุกประเภทกว่าร้อยละ  90 โดยเฉพาะ คดีฆ่าคนตาย จะสามารถสืบสอบให้รู้ตัวผู้กระทำผิดและสามารถติดตามจับคนร้ายได้ในที่สุดทั้งสิ้น

แต่ถ้าไม่จริงจังและจริงใจ แม้ได้เบาะแสหรือแม้แต่พยานหลักฐานจากประชาชนมามากมาย ก็ไม่มีใครพยายามสืบสอบเพื่อให้รู้ตัวคนร้ายแต่อย่างใด เป็นเช่นนั้นอยู่หลายคดี

หรือแม้กระทั่งกรณีที่ศาลได้ออกหมายจับไว้ ก็ไม่มีเจ้าพนักงานหรือหน่วยงานใดที่ รัฐจัดกำลังคน อุปกรณ์ ยานพาหนะ และอาวุธทันสมัยนานาชนิดให้ ติดตามจับตัวมารับโทษตามกฎหมาย

ปล่อยให้คนร้ายเดินลอยนวลกันทั้งในและนอกประเทศ “ประจานความล้มเหลวของรัฐ” อยู่มากมาย!

เช่นราย พ.ต.อ.พิจิตร กรมประสิทธิ์ ผกก.สภ.ไทรงาม จว.กำแพงเพชร ร่วมกับ ตำรวจ และพวกอีก 5-6 คน  ใช้อาวุธปืนสงครามปล้นรถขนเงินและยิงพนักงานธนาคารกสิกรไทยสาขาอินทร์บุรี จว.สิงห์บุรี บาดเจ็บสาหัส ได้เงิน 2 ล้านบาทไป เหตุเกิดในวันที่ 26 มี.ค.2555

ซึ่งต่อมา ศาลได้ออกหมายจับผู้ต้องหาที่เป็นตัวการสำคัญรายนี้ไว้ 

เวลาผ่านมากว่า 7 ปี แต่จนกระทั่งป่านนี้ ก็ยังไม่ได้ยินว่ามี นายพลตำรวจ ที่สื่อตั้งฉายากันว่าเป็น นักสืบ  หรือ มือปราบ คนใดสนใจสืบจับตัวมาดำเนินคดีกันได้แต่อย่างใด?

ซึ่งถ้าได้ตัวคนร้ายมา สื่อที่ซื่อสัตย์ต่อประชาชน ก็อาจมีโอกาสซักถามถึงเหตุจูงใจในการปล้นว่า

ต้องการนำเงินไปใช้หนี้ที่ได้จ่ายไปในการ “วิ่งเต้นซื้อตำแหน่ง” ตามที่ตำรวจพูดและประชาชนสงสัยกันจริงหรือไม่? 

ถ้าไม่ถูกตำรวจผู้ใหญ่คนใด ชิงตัดบทขัดจังหวะ เสียก่อน! 

เกี่ยวกับปัญหาอาชญากรรมนั้น เมื่อเกือบร้อยปีที่ผ่านมา เจ้าพระยายมราช เสนาบดีกระทรวงมหาดไทยได้ออกกฎกระทรวงเป็นหลักเอาไว้ในวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2465 ตอนหนึ่งว่า การจับผู้ร้ายไม่ถือเป็นความชอบ และ

“ห้ามมิให้ปูนบำเหน็จแก่เจ้าพนักงานของรัฐคนใดในการสืบจับคนร้าย”

ซ้ำยังจะถือว่าเป็น ความบกพร่อง ด้วยซ้ำ เนื่องจากผู้รับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดหรือหัวหน้าตำรวจพื้นที่ไม่สามารถป้องกันมิให้มีเหตุร้ายเกิดขึ้น ทำให้สังคมเกิดความสงบสุขได้

สำหรับกรณีนายประสิทธิชัยก่อเหตุชิงทรัพย์ครั้งนี้

ก็ยังมีปริศนาที่ไร้คำอธิบายว่า ข้าราชการครูที่มีการศึกษาระดับปริญญาโทและรับราชการมานานจนได้เลื่อนตำแหน่งเป็นถึงผู้อำนวยการโรงเรียน เป็นคนที่เพื่อนบ้านเห็นว่ามีอัธยาศัยไมตรี มีความทันสมัยและเอาใจใส่ในการพัฒนาเด็กรวมทั้งโรงเรียนเป็นอย่างดี

กลายเป็นคนมี พฤติกรรมเบี่ยงเบน ไปก่ออาชญากรรมร้ายเช่นนั้นได้อย่างไร

อะไรเป็น เหตุจูงใจ ให้ ผู้อำนวยการสถานศึกษาประเทศไทย ต้องกลายเป็นคนร้ายชิงทรัพย์ไปเช่นนี้

เป็นปรากฏการณ์ที่บ่งชี้ปัญหาร้ายแรงของสังคมในเรื่องอะไรที่ต้อง เร่งดำเนินการปฏิรูป บ้าง?

ที่บอกว่า เขาต้องการเงินจำนวนหนึ่งไปแก้ปัญหาชีวิตที่มีหนี้สินเกินรายได้นั้น เป็นเรื่องที่ทราบกันอยู่ทั่วไป

แต่ในความเป็นจริง ปัจจุบันประชนกว่าค่อนประเทศ ก็ล้วนแต่กู้หนี้ยืมสินคนมีเงินมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นจากสถาบันการเงิน สหกรณ์ หรือแม้กระทั่งบุคคลมาลงทุนหรือนำมากินมาใช้ในชีวิตประจำวันด้วยกันแทบทั้งสิ้น

และ ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ก่อให้เกิดแรงกดดันถึงขนาดต้องตัดสินใจเสี่ยงชีวิตและอนาคตก่ออาชญากรรมร้ายใช้อาวุธชิงหรือปล้นทรัพย์ ซึ่งจะถูกรัฐตามจับตัวนำมารับโทษตามกฎหมาย ทำให้เกิดความเดือดร้อนต่อตนเองและครอบครัวหนักขึ้นไปอีกแต่อย่างใด                  

เนื่องจากในการกู้ยืมเงินในระบบของประชาชนทุกคนนั้น ส่วนใหญ่ได้มีการวางแผนใช้จ่ายเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่า  มีความสามารถในผ่อนชำระเดือนละเท่าใด ไม่ว่าบุคคลนั้นจะได้รับเงินเดือนจากการเป็นข้าราชการหรือทำงานประกอบอาชีพใด

ซึ่งแม้จะทำให้รายได้ส่วนหนึ่งหดหายไปหรืออาจไม่พอใช้จ่าย

แต่ก็จะอยู่ในลักษณะ ค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งส่วนใหญ่จะสามารถปรับตัวและความคิดรวมทั้งการดำรงชีวิตให้สอดคล้องกับรายได้ในที่สุด

ในความเป็นจริง สาเหตุที่บุคคลปกติโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าราชการผู้มีรายได้ประจำและความมั่นคงในชีวิตเหนือกว่าหลายอาชีพ ตัดสินใจในเวลาอันรวดเร็วลักษณะนี้

มักจะมีสาเหตุจากปัญหา หนี้นอกระบบ หรือ หนี้ที่เกิดจากการเล่นพนันผิดกฎหมาย กันเป็นส่วนใหญ่             อย่างรายล่าสุดก่อนกรณีนายประสิทธิชัย เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.62 นายประวิทย์ ไชยคีนี ชายอายุ 22 ปี ควงมีดอีโต้เข้าชิงทรัพย์ร้านทองในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ทองหนักถึง 100 บาท มูลค่ากว่า 2 ล้าน ก็เกิดจากปัญหา หนี้การพนัน เช่นเดียวกัน

ปัจจุบันบ่อนการพนันผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นไพ่ ไฮโล บาคาร่า และตู้ม้าสารพัด มีให้ประชาชนทุกเพศวัยเข้าไปเสี่ยงโชคได้มากมาย สามารถเข้าถึงได้แสนง่ายในแทบทุกชุมชน

ไม่มีใครรู้ว่า นอกจากนายประสิทธิชัยจะเป็นหนี้สหกรณ์ครูและอื่นๆ อยู่รวมกว่า 1,600,000 บาทแล้ว

ได้ไปก่อหนี้ที่เกิดขึ้น อย่างฉับพลัน ไม่ว่าจะจาก การเล่นการพนันทั้งออฟไลน์และออนไลน์ หรือการกู้ยืม นอกระบบ รูปแบบใดอีกหรือไม่?

คนที่มีฐานะปานกลางส่วนใหญ่หลายคนที่การดำรงชีวิตเดินมาสู่หนทางอับจน หรือไม่ได้เป็นข้าราชการประเภทที่มีผู้ใต้บังคับบัญชา ส่งส่วย รายเดือนให้ รายได้ไม่พอใช้จ่ายในชีวิตประจำวันจนถึงทางตัน

ถ้าเป็นคนที่ไม่มีภาระต้องดูแลใคร ร่างกายและจิตใจอ่อนแอโดยเฉพาะหญิงสาว ก็มักจะตัดสินใจ ฆ่าตัวตาย   เพื่อให้จบปัญหาไป

แต่สำหรับคนหนุ่มสาวที่มีกำลังวังชาและมีเวลา ก็อาจพยายามแก้ปัญหาด้วยการวางแผน ฉ้อโกง หรือ รับจ้างขนค้ายาเสพติด

แต่บางคนที่มีความจำเป็นต้อง ได้เงินมาเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยเร็ว ก็มักใช้วิธีชิงหรือ ปล้นทรัพย์  เพราะใช้เวลาน้อยกว่า

อย่างไรก็ตาม จนกระทั่งป่านนี้ ก็ไม่มีใครรู้ว่านายประสิทธิชัยต้องการเงินจำนวนหนึ่งไปเพื่อแก้ปัญหาที่ตนเองหรือคนอื่นก่อขึ้นใน เรื่องอะไร?

ตอนให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ผู้สื่อข่าวก็ไม่มีโอกาสได้ซักไซ้อะไรในประเด็นนี้จนได้ความกระจ่างชัด

ถูกตัดคำถามไปในเรื่อง ความรู้สึกหลังก่อเหตุ เสียก่อน!

คุณสันติวิธี พรหมบุตร ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 รายงานว่า ได้มีโอกาสคุยกับนายประสิทธิชัยขณะไปเข้าห้องน้ำที่สถานีตำรวจท่องเที่ยว จ.ลพบุรี

ได้พยายามถามถึงสาเหตุที่ทำให้ต้องตัดสินใจก่ออาชญากรรมครั้งนี้

นายประสิทธิชัยอ้ำอึ้งไปพักใหญ่ และบอกว่า ตำรวจผู้ใหญ่เขาไม่ให้ผมพูดอะไรมากครับพี่!

แต่สิ่งที่ตำรวจผู้ใหญ่ไม่ต้องการให้ผู้ต้องหาพูดไม่ว่าจะเป็นคดีนี้และอีกหลายๆ คดีนี่แหละ

คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนดีๆ จำนวนมากเกิดพฤติกรรมเบี่ยงเบนกลายเป็นอาชญากรร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์หรือปล้นทรัพย์ บ้านเมืองร้อนระอุไร้ความปลอดภัยจนแทบลุกเป็นไฟอยู่ในขณะนี้!   

สาเหตุอาชญากรรม
ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์ คอลัมน์ เสียงประชาชนปฏิรูปตำรวจ : ฉบับวันที่ 27 ม.ค. 2563