ก.ต.ตั้งกรรมการสอบวินัย’คณากร’ผู้พิพากษายิงตัวเองพร้อมเด้งไปเชียงใหม่-ตั้งกก.สอบวินัยร้ายแรง’ชำนาญ’แทรกแซงการพิจารณาคดี

ก.ต.ตั้งกรรมการสอบวินัย’คณากร’ผู้พิพากษายิงตัวเองพร้อมเด้งไปเชียงใหม่-ตั้งกก.สอบวินัยร้ายแรง’ชำนาญ’แทรกแซงการพิจารณาคดี

ที่ห้องประชุมอาคารศาลยุติธรรม ชั้น 3 ศาลฎีกา  วันที่ 18 พ.ย.62 นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ภายหลังการประชุม นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ในฐานะเลขานุการ ก.ต. เปิดเผยว่า  ที่ประชุม ก.ต. รับทราบรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง นายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้น ในศาลจังหวัดยะลา ของคณะอนุกรรมการตุลาการวิสามัญแล้ว และมีมติตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงนายคณากร  ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 มาตรา 68 คือเป็นกรณีที่ถูกกล่าวหาหรือมีกรณีเป็นที่สงสัยว่ากระทำผิดวินัย และมีมติให้นายคณากรไปช่วยทำงานชั่วคราวในกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น นอกจากนี้ที่ประชุม ก.ต. ยังมีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาและพัฒนาหลักเกณฑ์ แนวทาง และวิธีการตรวจร่างคำพิพากษาของภาค รวมทั้งมาตรการป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

 

นอกจากนี้ที่ประชุม ก.ต มีวาระการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายผู้พิพากษาหลายตำแหน่ง รวมถึงหลักเกณฑ์การจัดตั้งผู้พิพากษาอาวุโส และวาระอื่นๆ ยังมีวาระที่น่าสนใจ คือ ก.ต.ได้มีการลงมติจากที่ คณะอนุกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (อ.ก.ต.)ได้ทำลงมติเสียงข้างมาก 13-4 (อ.ก.ต.เดิมมี 21 คน แต่ช่วงพิจารณาอยู่ในช่วงสับเปลี่ยนตำแหน่งเลื่อนขั้น ทำให้เหลือ 17 คน) พร้อมทำความเห็นเสนอว่า การกระทำของ นายชำนาญ รวิวรรณพงษ์ อดีตประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา เกี่ยวกับกรณีในคดีมรดกที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ถูกกล่าวหาว่ามีการแทรกแซงการพิจารณาพิพากษาคดีในศาล เห็นควรที่จะถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง โดย ก.ต.ได้พิจารณาแล้วมีมติเสียงข้างมาก 12-2 เห็นควรตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงต่อนายชำนาญ ตามที่ อ.ก.ต.เสียงข้างมากทำความเห็นมา

 

นอกจากนี้ที่ประชุม ก.ต.ยังมีการลงมติทบทวนมติ ก.ต.ครั้งที่ 9/2562 กรณีที่ประชุม ก.ต.มีมติให้นายชำนาญไปดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ โดยที่ประชุมเสียงข้างมาก 12-2 ให้ ก.ต.ทบทวนมติเรื่องที่จะให้นายชำนาญเป็นผู้พิพากษาอาวุโสฯ และเมื่อมีการทบทวนแล้ว หลังจากนั้น ก.ต.ยังได้มีการลงมติเห็นชอบหรือไม่ ที่จะให้นายชำนาญเป็นผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ชำนัญพิเศษ ผลปรากฎว่า ที่ประชุมมีมติเสียงข้างมาก 12-2 ไม่ผ่านให้นายชำนาญดำรงตำแหน่งเป็นผู้พิพากษาอาวุโส

 

สำหรับนายชำนาญนั้น เคยถูกยื่นถอดถอนจากตำแหน่ง ก.ต.ชั้นศาลฎีกา ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ.2543 มาตรา 42โดยผู้พิพากษาทั่วประเทศใช้สิทธิลงคะแนนเห็นชอบให้ถอดถอนนายชำนาญออกจากการเป็น ก.ต. ชั้นฎีกา รวมทั้งสิ้น 3,165 คะแนน จากบัตรลงคะเเนน 3,548 ใบ จากกรณีกล่าวหาว่านายชำนาญส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อกฎหมาย คุณธรรมและจริยธรรม หรือการกระทำที่น่าสงสัยว่ากระทำผิดวินัย มีพฤติการณ์ไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ ก.ต. ในกรณีที่อ้างถึงการก้าวก่ายแทรกแซงผู้พิพากษาศาลชั้นต้นขณะสืบพยานในบัลลังก์ คดีมรดกครอบครัวภรรยาที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา และการแสดงกิริยาไม่เคารพกระบวนพิจารณาของศาล ทั้งแสดงตนเป็นผู้มีอำนาจเหนือกว่าข่มขู่ผู้พิพากษาศาลชั้นต้น