ฉาวอีก!ดาบตำรวจสภ.ท่าหินขโมยปืนจากคลังโรงพัก50กระบอกไปจำนำ สตช.ให้ออกจากราชการไว้ก่อนพร้อมตั้งชุดสืบสวนติดตามอาวุธมาคืน

ฉาวอีก!ดาบตำรวจสภ.ท่าหินขโมยปืนจากคลังโรงพัก50กระบอกไปจำนำ สตช.ให้ออกจากราชการไว้ก่อนพร้อมตั้งชุดสืบสวนติดตามอาวุธมาคืน

สภ.ท่าหิน

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) วันที่ 26 ต.ค.2562  ทีมโฆษก ตร.เปิดเผยถึงกรณีดาบตำรวจ สภ.ท่าหิน นำปืนหลวงซึ่งเป็นปืนที่อยู่ในคลังของ สภ.ท่าหิน จ.ลพบุรี  ไปจำนำแก่บุคคลภายนอกในพื้นที่ สภ.ท่าหิน  ว่า เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา ด.ต.ชรินทร์ บุตรดี ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.ท่าหิน ซึ่งทำหน้าที่ดูแลพัสดุและสิ่งของหลวง ได้กระทำผิดวินัยร้ายแรงโดยการนำอาวุธปืนในคลังของ สภ.ท่าหิน ไปจำนำแก่บุคคลอื่นรวมทั้งหมด 50 กระบอก จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทาง สภ.ท่าหินได้ดำ นินคดีอาญากับ ด.ต.ชรินทร์ ประกอบกับทาง ภ.จว.ลพบุรี ได้มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง พร้อมมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว  เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่ง ใสกับทุกฝ่าย ประกอบกับได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนดำเนินคดีอาญาดังกล่าว และตั้งชุดสืบสวนติดตามอาวุธปืนดังกล่าวต่อไป

ต่อมาในวันที่ 25 ต.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมตัวนายประทีป โตพูล ตามหมายจับของศาลจังหวัดลพบุรี ในความผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดซื้อทำดูแลรักษาทรัพย์ใดๆ เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนเองหรือผู้อื่นโดยทุจริต หรือรับของโจร และได้นำตัวฝากขังที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 จ.สระบุรี และ ในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสามารถติดตามอาวุธปืนของหลวงที่หายไปได้อีก 1 กระบอกบริเวณป่าหญ้าด้านหลังศาลารถประจำทางถนนสุรนารายณ์ ต.นาโสม อ.ชัยบาดาล จ.สระบุรี

โดยในขณะนี้สามารถติดตามอาวุธปืนคืนได้แล้วจำนวน 19 กระบอก คงเหลือที่หายอีกจำนวน 31 กระบอก สภ.ท่าหินได้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ชรินทร์ ตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมกับคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนได้ทำการขยายผลว่ามีผู้ใดมีส่วนร่วมในการกระทำผิดอีกหรือไม่ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างขออนุมัติศาลจังหวัดลพบุรีออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก 5 รายโดยยืนยันว่าจะดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำความผิดและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าวโดยไม่มีการละเว้นและไม่มีผู้ใดสามารถให้ความช่วยเหลือได้

แหล่งข่าวใน สภ.ท่าหิน ระบุว่า ด.ต.ชรินทร์ มีปัญหาทางด้านการเงิน หลังถูกจับถูกตรวจสอบเงินในบัญชี พบมีเงินหมุนเวียนวันละ หลายหมื่นบาท คาดว่าน่าจะเป็นเงินจากการเล่นการพนัน นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า ด.ต.ชรินทร์ เคยกู้เงินสหกรณ์มา 1 ล้านบาท แต่เพียงวันเดียวก็ใช้เงินหมดแล้ว อีกทั้ง ด.ต.ชรินทร์  ไม่ค่อยกลับบ้าน หรือบ้านพัก เพราะถูกเจ้าหนี้ตาม ทวงหนี้

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อราว 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อคณะกรรมการตรวจสอบอาวุธปืนของหลวงเป็นประจำทุกเดือน และคณะกรรมการรายงานว่าอาวุธปืนของหลวง สภ.ท่าหิน ตรวจสอบปืนหลวง พบหายไปจำนวน   49 กระบอก จึงได้ให้ ด.ต.ชรินทร์ บุตรดี ผู้ควบคุมของหลวงประจำ สภ.ท่าหิน ชี้แจง จนกระทั่งทราบว่าด.ต.ชรินทร์ ได้นำของหลวงไปจำนำกับบุคคลอื่น จากนั้นพ.ต.อ.ณัชภูมิ วรรณวิไล ผกก.สภ.ท่าหิน ได้สั่งการให้ชุดสืบ ติดตามอาวุธปืนได้กลับมาแล้วจำนวน 18 กระบอก  และดำเนินคดีอาญากับ ด.ต.ชรินทร์ ตำรวจ สภ.ท่าหิน 1 นาย และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ได้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง พร้อมให้ออกจากราชการ ไว้ก่อน

ด้าน พล.ต.ต.ณัฐพล ศุกระศร ผบก. ภ.จว.ลพบุรี กล่าวว่า สั่งการตั้งให้ พ.ต.อ. นิธินันท์ เต็มศิริวัฒน์ รอง ผบก.ภ.จว.ลพบุรี เป็นหัวหน้าชุดสอบสวนวินัยร้ายแรง ส่วนเรื่องคดีเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนเพราะจะทราบในรายละเอียดของคดี ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อ พ.ต.อ.ณัชภูม วรรณวิไล ผกก.สภ.ท่าหิน เพื่อขอทราบรายละเอียดที่เกิดขึ้น แต่ไม่สามารถติดต่อได้ สำหรับปืนที่หายไปมีทั้งยี่ห้อกล็อก ซิกซาว์เออร์ ขนาด 9 มม. และ .38 สูญหายไปทั้งหมด 53 กระบอก แต่สามารถติดตามคืนมาได้อย่างรวดเร็ว 4 กระบอก ต่อมาติดตามคืนได้อีก 18 กระบอก โดยปืนเหล่านี้หลายกระบอกโดนลบเลขทะเบียนและถูกส่งต่อไปใช้ในขบวนการจำหน่ายยาเสพติดสร้างความเสียหายแก่รัฐอย่างมาก

พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 กล่าวว่า ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว พร้อมสั่งการ ให้ พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญการตำรวจภูธรภาค 1 ติดตาม ความคืบหน้าคดีนี้ เบื้องต้น สามารถควบคุมตัวตำรวจที่กระทำผิดได้แล้ว ที่สภ.ท่าหิน หลังจากนี้ก็จะดำเนินคดี ตามกฎหมาย ส่วนเหตุจูงใจ อยู่ระหว่างการสอบสวน ส่วนจะมีผู้รู้เห็นหรือให้การช่วยเหลือ อยู่ระหว่างสืบสวน ทั้งนี้สามารถติดตามนำอาวุธปืน กลับคืนมาได้บางส่วนจำนวน 18 กระบอก