ซักฟอกแฉส่วยแรงงานเถื่อนส่ง’บิ๊กป.’ -‘ป้อม’ขอเวลาสอบสวน’ประยุทธ์’ท้าหาหลักฐานพิสูจน์

ซักฟอกแฉส่วยแรงงานเถื่อนส่ง’บิ๊กป.’ -‘ป้อม’ขอเวลาสอบสวน’ประยุทธ์’ท้าหาหลักฐานพิสูจน์

 

ที่รัฐสภา วันที่ 18 ก.พ. 2564 ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายตอนหนึ่ง ว่า การระบาดโควิดที่เกิดขึ้นรอบสอง มีขบวนการค้าแรงงานเถื่อนข้ามชาติรับส่วยในพื้นที่ มี 12กลุ่ม อยู่ในกระบวนการรับส่วยแรงงานต่างด้าวเถื่อน แบ่งหน้าที่กันทำ มีดาบ จ.เป็นหัวหน้าทีมเก็บส่วย กระจายส่งแรงงานต่างด้าวเถื่อนไปที่ กทม. สมุทรสาคร สมุทรปราการ สมุทรสงคราม และยังมีแก๊งส่วยคนจีน ขนคนจีนเข้ามาในไทย มีหัวหน้า อ.เป็นหัวหน้าทีม ทั้งขบวนการแรงงานต่างด้าวเถื่อนและแก๊งส่วยคนจีน

 

“มีการเก็บส่วยส่งถึง “บิ๊กป.”  ทำให้คดีต่างๆแรงงานต่างด้าวเถื่อนที่ถูกจับเงียบหาย เพราะทำกันเป็นขบวนการ สะท้อนให้เห็นความปล่อยปะละเลยของระดับบนที่รู้เห็นเป็นใจ ช่วยให้คดีต่างๆเงียบหาย และขบวนการเหล่านี้ยังอยู่ได้ สิ่งเหล่านี้เป็นภาพสะท้อนการปล่อยปะละเลย ไร้ความรับผิดชอบ พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะมีผลประโยชน์หรือไม่ ตนขอรอฟังคำชี้แจงอยู่” นพ.ชลน่าน กล่าว

 

จากนั้น น.ส.วรรณวิภา ไม้สน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ตอนหนึ่งว่า ปัญหาแรงงานข้ามชาติลักลอบเข้าเมือง สาเหตุเกิดจากรมว.แรงงาน ทำงานบกพร่อง ประมาท ทำให้แรงงานผิดกฎหมายเฟื่องฟู กลายเป็น super spreader จากตลาดกุ้งจ.สมุทรสาคร นำมาสู่การแพร่ระบาดไวรัสโควิด ยังไม่เคยเห็นการแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน ให้เพียงพอ หากทำให้ถูกกฎหมายมีขั้นตอนมากมาย มีค่าใช้จ่ายสูง ประกอบด้วย ต้องได้รับหนังสือรับรองหนังสือแพทย์ มีวีซ่า มีการตรวจควบคุมโรค กักกันตัว ค่าใช้จ่าย 2-3หมื่นบาทต่อคนขั้นตอนนำเข้ามาก็ยุ่งยาก ต้องใช้เอกสารมากมาย ไม่แปลกใจทำให้เกิดการค้ามนุษย์ ที่ค่าใช้จ่ายไม่สูงเท่านี้

 

“เชื่อว่า หลายคนไม่อยากไปแรงงานเถื่อน ไม่รู้ว่ารมว.แรงงาน ไม่รู้ไม่เห็นหรือแกล้งไม่เห็นกันแน่ ความผิดพลาดนายสุชาติ ทำให้ประเทศอยู่ในภาวะถดถอย แม้ต่อมาจะนิรโทษกรรมแรงงานเถื่อนให้ลงทะเบียนถูกกฎหมาย1เดือน เพื่อให้เกิดการตรวจโควิด ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็เกิดข่าว นายจ้างลอยแพลูกจ้าง นำแรงงานไปปล่อยทิ้ง ตัวเลขแรงงานเถื่อนที่ลักลอบมาอาจสูงถึง 2 ล้านคน จะทำอย่างไรต่อ แรงงานข้ามชาติ เป็นคนเหมือนกับเรา ในฐานะรมว.แรงงาน กลับไม่ดูแรงงานกลุ่มนี้ให้มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เหมือนคนไทย”น.ส.วรรณวิภา กล่าว

 

หลังจากนั้นพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ชี้แจงกรณีที่ถูกนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายโจมตีเรื่องแรงงานต่างด้าวและขบวนการหลบหนีเข้าเมือง ว่า จากที่ฟังการอภิปราย ยังไม่เคยเห็นแผนภูมิข้อมูลที่มีการนำมาแสดง ขอเวลาไปสอบสวนว่า เรื่องขบวนการหลบหนีเข้าเมืองนั้นดำเนินการมาอย่างไร เพราะเป็นเรื่องการทำงานของเจ้าหน้าที่ในระดับล่างขอเวลาก่อน เมื่อได้รายละเอียด จะมาชี้แจงให้รับทราบต่อไป

 

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นากยกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า  การระบาดของโควิดรอบนี้ ถือว่าการระบาดโควิดรอบแรกเราทำได้ดี แม้จะมีปัญหาตามที่ฝ่ายค้านระบุ การลักลอบเข้าเมือง มีเรื่องทุจริตผิดกฎหมาย มีการเรียกรับผลประโยชน์

 

“ผมยืนยัน 3 ป. ไม่มีรับเงิน เดี๋ยวไปพิสูจน์มา หาประจักษ์พยานมาแล้วไปสู้กับผมในคดี ในนี้ท่านพูดได้ ไม่เป็นไร ผมก็พูดได้เช่นกัน แต่ก็ต้องรักษากิริยา รู้ว่าท่านต้องการให้ผมโมโห ยากครับ ยากครับ “พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปัญหาต่างๆ คือสิ่งที่ต้องแก้ไข ไม่มีอะไรได้ทีเดียว เช่นการจดทะเบียนแรงงานในปี 62 เราก็ดำเนินการ ก่อนหน้านั้นไม่เคยทำได้ แต่หลังจากปี 62 มีความต้องการมาก ทำให้เกิดแรงงานเถื่อน จนเกิดกระบวนการขึ้นมา ซึ่งรับข้อมูลจากฝ่ายค้านมา บางส่วนก็ตรงกับข้อมูลที่มี ซึ่งดำเนินการอยู่ทั้งสิ้น ไม่ต้องกลัว รังเกียจคนทำผิดกฎหมาย รังเกียจเงินชั่วๆ ที่ได้มาจากการทำความผิด เกลียดลูกน้องเลวๆ ผู้บัญชาการทหารบกเก่า บอกกับตนว่าต้องมีเกียรติยศและศักดิ์ศรี ซึ่งมันอยู่กับผมมาตั้งแต่เกิดไม่ใช่มาเป็นตอนไหน มันอยู่ตั้งแต่เกิดจนตายอยู่ในสายเลือด

 

“อย่ามาบอกว่า ไม่เคารพในศักดิ์ศรีตัวเอง ไม่เช่นนั้น ไม่มาทนท่านอย่างนี้หรอก และที่ท่านบอกว่าโรคหลงตัวเองมีอาการ 17 นั้น สิ่งที่ไม่มี คือการทุจริตจนคุ้นชิน ไม่เคยเป็นอย่างนั้น ท่านพูดให้ประชาชนเข้าใจผิด แต่จะผิดจะถูกไปว่าในกระบวนการยุติธรรม ในสภาฯอยากให้พูดให้เกียรติกัน ดูถูกเหยียดหยามมันควรหรือไม่ ส่วนที่ฝ่ายค้านโจมตีการเฝ้าระวังโควิด ชี้แจงไม่รู้อย่างไรแล้ว แต่ฝ่ายค้านก็ยังนำมาตี เอาไว้ท่านเป็นรัฐบาลก็แล้วกัน อวยพรอยากให้เป็น แต่จะได้เป็นหรือไม่ก็รู้”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ชี้แจงว่า ที่กล่าวหาว่าตนเองปล่อยปละละเลยไม่กำกับดูแลแรงงานต่างด้าวนั้น ยอมรับว่าการแพร่ระบาดที่ จ.สมุทรสาครเกิดจากแรงงานต่างด้าว แต่ถามว่าถ้าไปจับตั้งแต่วันแรกจะเหมือนกับฝีแตก จะเอาอยู่หรือไม่ สิ่งที่ต้องควบคุมคือไม่ทำให้ฝีแตก ให้เขาอยู่กับที่ ตนจึงเสนอ ครม.ในการที่เราจะนำแรงงานนอกระบบเข้าสู่ระบบ หลายคนมองว่าการทำแบบนั้นจะทำให้แรงงานลอบเข้ามาเยอะขึ้น แต่วันนั้นเราต้องเลือก จะเห็นว่าหลังจากมีข่าวออกไป วันรุ่งขึ้นเจ้าของกิจการนำแรงงานไปปล่อยที่ จ.สมุทรปราการ เพราะกลัวโดนจับ ดังนั้น ถ้าเราไม่ออกมาตรการควบคุม จะเกิดอะไรขึ้น

 

“หลังจากเราให้แรงงานนอกระบบมาขึ้นทะเบียนตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.-13 ก.พ. มีผู้มาขึ้นทะเบียน 6 แสนกว่าคน ถ้าเราไม่ปล่อยให้เข้าระบบ จะเป็นอย่างไร และการขึ้นทะเบียน 6 แสนกว่าคนตนบริหารจัดการได้ดีกว่ารัฐบาลในอดีต นอกจากนี้ มีการตรวจสถานประกอบการ ตรวจแรงงานในสถานประกอบการ ไม่ได้ปัดความรับผิดชอบเลย”นายสุชาติ กล่าว