ประธานญาติวีรชนฯ จวก’ประยุทธ์’สมคบคิด’มีชัย’บิดเบือนเจตนารมณ์ปฏิรูปตำรวจ

ประธานญาติวีรชนฯ จวก’ประยุทธ์’สมคบคิด’มีชัย’บิดเบือนเจตนารมณ์ปฏิรูปตำรวจ

 

เมื่อวันที่7 ก.พ.2564 นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 และอดีตกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างปรองดองแห่งชาติ กล่าวว่า คณะกรรมการญาติวีรชนฯเคยแนะนำให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เปิดทางให้มีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เพื่อสร้างความปรองดองของคนในชาติและปฏิรูปประเทศสะสางความสกปรกที่ทำไว้แต่บัดนี้ล่วงเลยเวลามาเนิ่นนานแล้ว บ้านเมืองกำลังเผชิญกับวิกฤติรอบด้าน ประชาชนดำรงชีวิตอยู่อย่างยากลำบากไร้ความหวังลูกหลานเยาวชนมองไม่เห็นอนาคตของตัวเอง แต่พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังแก้ปัญหาแบบราชการไร้วิสัยทัศน์ ไร้ภาวะผู้นำ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19รอบใหม่ ซึ่งเกิดจากการทุจริตประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐปล่อยให้มีการค้าแรงงานต่างด้าวและบ่อนการพนันสร้างความหายนะต่อระบบเศรษฐกิจของไทยอย่างย่อยยับ แทนที่จะเร่งลากคอเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตปลดไล่ออกผู้นำหน่วยงานนั้นรวมทั้งเอาตัวเจ้าของบ่อนมาลงโทษกลับไปตั้งกรรมการซื้อเวลาซ้ำซากเท่ากับเป็นการสมคบคิดและมีส่วนรู้เห็นกับขบวนการนี้ด้วย

 

 

นายอดุลย์ กล่าวว่า ตลอดเวลาที่พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามามีอำนาจได้พิสูจน์แล้วว่าไม่ได้มีแนวคิดที่จะปฏิรูปประเทศ เพื่อวางรากฐานไว้ให้ลูกหลานในอนาคต การปฏิรูปตำรวจเป็นเรื่องที่ประชาชนเรียกร้องมาตลอด มีการตั้งคณะกรรมการมาหลายชุดแล้วก็ไม่สำเร็จ ล่าสุดร่างกฎหมายปฏิรูปตำรวจที่เพิ่งผ่านครม.และกำลังเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมร่วมรัฐสภาในวันอังคารที่9ก.พ.นี้ ก็ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการลักไก่ หมกเม็ด แปรงสาร แต่ตนคิดว่าเป็นการ”สมคบคิด”กับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ  เพื่อสร้างความสับสนกับสังคม บิดเบือนเจตนารมณ์ปฏิรูปตำรวจ เพียงเพื่อและรักษาประโยชน์ของพวกตัวเอง เหมือนกับการร่างรัฐธรรมนูญทุกครั้ง ที่เป็นต้นเหตุการณ์เสียเลือดเนื้อของประชาชนและความพินาศฉิบหายของประเทศ

 

“ขอเรียกร้องให้ผู้ที่เคยมีประสบการณอยู่ในวงการธุรกิจสีเทา เช่น คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ คุณสันธนะ ประยูรรัตน์ ออกมาแฉความสกปรกเน่าเฟะของวงการว่ามีธุรกิจสีเทาอยู่ที่ไหนบ้าง จ่ายส่วยสินบนให้นายตำรวจหรือฝ่ายการเมืองคนไหนบ้าง และร่วมกันจับตาร่างกฎหมายปฏิรูปตำรวจฉบับสมคบคิดเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องจนประชาชนจะหมดความอดทนในไม่ช้า  และขอเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องและประชาชนช่วยกดดันให้เร่งปฏิรูปตำรวจซึ่งเป็นต้นทางกระบวนการยุติธรรมที่สำคัญให้สำเร็จโดยเร็วมิเช่นนั้นบ้านเมืองจะล้าหลังและเกิดความเสียหายเหมือนการระบาดโควิดรอบสองอีก แต่หากพล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีภาวะผู้นำที่จะปฏิรูป ยังสมคบคิดกันอีก ก็ต้องช่วยกันกดดันและพิจารณาว่าพล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลนี้เหมาะสมที่จะบริหารประเทศต่อไปหรือไม่”นายอดุลย์ กล่าว