พนักงานสอบสวนหญิงบ่นเศร้าใจ!ไว้อาลัยงานสอบสวน หลังเห็นคลิปตำรวจจับสลากเป็นพงส.

พนักงานสอบสวนหญิงบ่นเศร้าใจ!ไว้อาลัยงานสอบสวน หลังเห็นคลิปตำรวจจับสลากเป็นพงส.

เมื่อวันที่15 ธ.ค.2561 เพจเฟซบุ๊ก “พนักงานสอบสวนหญิง”ของชมรมพนักงานสอบสวนหญิง ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีโลกโซเชียลมีการแชร์คลิปเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีแห่งหนึ่งในจังหวัดระยองจับสลากเป็นพนักงานสอบสวน โดยเมื่อเริ่มจับสลากมีเสียงพูดว่า “หัวใจจะวาย”…”จะเป็นลม” จากนั้นมีการพูดว่า”ถ้าจับได้พงส.(พนักงานสอบสวน)ต้องไป จับได้รองสวป.(รองสาวัตรปราบปราม)คืออยู่” หลังมีการจับลสากตำรวจรายหนึ่งพูดขึ้นว่าจับได้ “รองสวป.” อีกเสียงบอกว่า “รอดโว้ย!” ขณะที่่ตำรวจรายหนึ่งพูดถึงตำรวจที่จับได้พงส.ว่า”ไม่เป็นไรมันเหมือนมวย ตอนยังไม่ขึ้นชกก็กลัว พอขึ้นเวทียังงัยก็ต้องต่อย”

โดยเพจพนักงานสอบสวนหญิง ระบุว่า

จับฉลากไปเป็นพนักงานสอบสวน ทำหยังกะไปเป็นทหารเกณฑ์ อันนี้คือพนักงานสอบสวนเกณฑ์

ใครจับใบดำก็รอด ใครได้ใบแดงก็ไปเป็น ทำได้หรือไม่ได้ก็ไม่รู้ แต่ต้องทำ ฝึกเอาใครก็ทำได้งานสอบสวนอะแค่งานเอกสาร 5555

อยากให้คนพูดมาเข้าเวรรับแจ้งเรื่องราวรับคำร้องทุกข์จากประชาชนเสียจริง หัวเสียมาจากไหนก็ไม่รู้ มาแว้ดแว๊ดเอากับพนักงานสอบสวน ไม่ใช่กระโถนนะเฟ้ย

เดี๋ยวนายก็เรียกตรวจสำนวน เดี๋ยวก็ไปฝากขัง เอ้าประชุมเร่งรัดคดี ไปอบรม เฮ้ย นอนตอนไหนดี

พนักงานสอบสวนถูกเร่งด้วยเวลาการควบคุมตัวผู้ต้องหา มีเวลาทำงานจำกัด และต้องชิงไหวชิวพริบกับผู้ต้องหา ทนายความ แถมยังต้องจับโกหกระหว่างผู้กล่าวหา ผู้ต้องหา พยาน ว่าใครพูดความเท็จน้อยที่สุด

แถมยังขาข้างหนึ่งยังแหย่เข้าคุกไปแล้ว โดนคดีมา หัวหน้าพนักงานสอบสวนยังไม่เคยต้องคดีด้วยเลย ทั้งที่สั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องด้วยกัน

ตำรวจที่มีคุณวุฒิพร้อมเป็นพนักงานสอบสวน เรียนกฎหมาย อาญา วิอาญา พยานหลักฐาน ก็เลยไม่มีใครอยากเป็นพนักงานสอบสวน

นี่ยังไม่นับพนักงานสอบสวนหญิงที่กฎหมายต้องการให้ทำคดีเฉพาะ แต่ผู้บังคับบัญชาเลอะเทอะ จับเข้าเวรทำทุกคดีอ้างคนไม่พอ แถมมีคดีเพศก็ต้องทำอีก ทำงานสองจ๊อบ ใครอยากจะอยู่เป็น

บ่นๆ เช้าวันเสาร์ที่เห็นคลิปจับฉลากเป็นพนักงานสอบสวนแล้วเศร้าใจ ไว้อาลัยแก่งานสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

#กระบวนการทำลายต้นธารกระบวนการยุติธรรม

หลังจากนั้นมีผู้แสดงความคิดเห็น อาทิ

ถ้าโชคร้ายกว่านั้น เจอผู้บังคับบัญชาที่โตมาจากงาน ป.และไม่รู้เรื่องมาสั่งการบ้าๆ แล้วทำให้บรรยากาศใน สภ.เลวลง

ไว้อาลัยแด่คำว่า “รอดไป”

คนที่อยู่บนสวรรค์คงไม่เคยรู้ว่านรกนั้นมีจริง

มันขาดแคลนก็รับเพิ่ม ซะ อย่าไปจับฉลาก เถอะ55

ต่อมาเพจดังกล่าว มีการโพสต์ข้อความอีกว่า

พนักงานสอบสวนเกณฑ์ สงสัยจะเป็นละครหลังข่าว

#เอาฮา #ตลกร้าย #จับสลาก #รอดไป #พนักงานสอบสวนเกณฑ์ #เอะอะก็ตั้งกรรมการ #ว่าจะชวนพนักงานสอบสวนงดรับคำร้องทุกข์สักเดือน #สหภาพแรงานตำรวจมี

police

ทั้งนี้ปัญหาดังกล่าวสืบเนื่องจากคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่7/2559 ลงวันที่ 5กพ.2559 เรื่องการกำหนดตำแหน่งพนักงานข้าราชการตำรวจซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการสอบสวน โดยยุบเลิกตำแหน่งพนักงานสอบสวน(พงส.)และเงินประจำตำแหน่ง ซึ่งพงส.เป็นวิชาชีพเฉพาะการเติบโตเลื่อนตำแหน่งตามสายงานของตัวเองมีหลักเกณฑ์ประเมินผลที่ชัดเจน เมื่อยุบพงส.แล้วคละกับตำแหน่งอื่น ส่งผลให้พงส.ขาดขวัญกำลังใจและขอย้ายไปสายงานอื่น ขณะที่สายงานอื่นก็ไม่อยากมาเป็นพงส.ทั้งที่มีค่าตอบแทนสูง

ต่อมาเมื่อวันที่28ก.ย.61สำนักงานกำลังพลได้มีบันทึกข้อความถึงผบช.น.และผบช.ภ.1-9 เรื่องการการกำหนดตำแหน่ง รองสว.(สอบสวน)-รองผกก.(สอบสวน)ให้แก่สถานีตำรวจต่างๆในสังกัดบช.น.,บช.ภ.1-9 จำนวน 3,502ตำแหน่ง โดยเกลี่ยตำแหน่งรอง.สวป.ที่เกินกรอบไปเป็นตำแหน่งรองสว.(สอบสวน) จนเกิดเหุตการณ์ดังกล่าว

ทั้งนี้สหพันธ์พนักงานสอบสวนแห่งชาติเคยยื่นหนังสือเรียกร้องกับนายวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ในขณะนั้น ขอแยกงานสอบสวนเป็นอิสระจากสตช.และได้ยื่นหนังสือเรียกร้องกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.ขอแยกงานสอบสวนเป็นอิสระจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากพงส.ทั่วประเทศกำลังประสบปัญหาในการปฏิบัติงาน ไม่สามารถดำเนินการาสอบสวนให้เป็นไปตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงให้เกิดความยุติธรรมต่อประชาชนได้ เนื่องจากในสคดีสำคัญมักถูกผู้บังคับบัญชาสั่งให้สอบสวนบิดเบือนและทำลายพยานหลักฐานช่วยผู้กระทำผิด หรือให้แจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อผู้ที่เกี่ยวข้องโดยมิชอบ แม้กระทั่งสั่งไม่รับคำร้องทุกข์จากประชาชนเพื่อลดสถิติคดี ก่อให้เกิดความเสียหายต่อกระบวนการยุตืธรรมทางอาญาของประเทศและประชาชนอย่างร้ายแรง จึงขอให้นายกฯสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิรูประบบงานสอบสวนตามอำนาจหน้าที่ของรัฐบาลด้วยการแยกงานสอบสวน นิติวิทยาศาสตร์ออกจากสตช. แต่หัวหน้าคสช.กลับออกคำสั่งยุบพงส.ส่งผลให้เกิดปัญหามากกว่าเดิม

แม้จะมีการตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม(ตำรวจ)ที่มีพล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธานฯและส่งผลการดำเนินงานให้รัฐบาลแล้ว ต่อมามีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาร่างพรบ.ตำรวจแห่งชาติ ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน และส่งร่างพรบ.2 ฉบับให้ครม.แล้วเช่นกัน แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า เป็นปัญหาและวิกฤติระบบงานสอบสวนที่ผู้มีอำนาจยังไม่มีคำตอบว่าจะแก้ไขอย่างไร?