ตร.อุบไต๋แจงเหตุไม่แย้งอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี’บอส กระทิงแดง’ขับรถชนตร.ตายยันไม่มีสองมาตรฐานแสลงวลี’คุกมีไว้ขังคนจน’

ตร.อุบไต๋แจงเหตุไม่แย้งอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี’บอส กระทิงแดง’ขับรถชนตร.ตายยันไม่มีสองมาตรฐานแสลงวลี’คุกมีไว้ขังคนจน’

เมื่อวันที่ 24ก.ค.2563 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)  พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษกตร.พร้อมด้วยพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก แถลงชี้แจงกรณีที่อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทเครื่องดื่มกระทิงแดงในทุกข้อกล่าวหาโดยที่คณะกรรมการตำรวจไม่แย้งความเห็นของอัยการและดำเนินการเพิกถอนหมายจับนายวรยุทธ  จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของสังคม  โดยพ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตำรวจและพนักงานอัยการมีการสอบเพิ่มเติมมาตลอด จนกระทั่งล่าสุดอัยการสูงสุด มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง เมื่อคณะกรรมการตำรวจพิจารณากับฝ่ายกฎหมายแล้ว ก็เห็นพ้องตามอัยการสั่งไม่ฟ้องด้วย

 

“ส่วนเหตุผลไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะดำเนินการตามกฎหมาย ถอนหมายจับนายวรยุทธในไทย และให้ตำรวจกองการต่างประเทศประสานตำรวจสากลถอนหมายจับอินเตอร์โพลด้วย ให้เสมือนเป็นผู้บริสุทธิ์คนหนึ่ง ทำให้นายวรยุทธ สามารถกลับเข้าประเทศได้ตามปกติ แต่น่าจะต้องใช้เวลาซักระยะ”

 

รองโฆษตร. กล่าวว่า คดีนี้เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนปกติ มีหลายคดีที่ตำรวจมีความเห็นแย้ง ซึ่งยึดตามพยานหลักฐาน ไม่ใช่เรื่องสองมาตรการใดๆ โดยที่ผ่านมาพนักงานอัยการสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบเพิ่มเติมในหลายประเด็น และพนักงานสอบสวนก็ส่งความเห็นเพิ่มเติมไปหลายครั้ง จนถึงที่สุดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาพนักงานอัยการก็มีความเห็นเป็นเด็ดขาดออกมา ซึ่งไม่มีใครจะสามารถก้าวล่วงได้ ยืนยันว่าการเห็นแย้งหรือไม่แย้งต้องอยู่ที่พยานหลักฐาน ไม่ได้ทำตามกระแสสังคม

 

ส่วนประเด็นที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่ามีการเข้าข้างทำสำนวนนั้น รองโฆษกตร. กฃ่าวว่า  ไม่เป็นความจริง เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ก็เปิดโอกาสให้ตรวจสอบมาโดยตลอด การสั่งไม่ฟ้องข้อหาใด ก็มีเหตุผลความจำเป็นและพยานหลักฐานสนับสนุนอยู่แล้ว และก็มีการดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องซึ่งบกพร่องในการทำสำนวนคดีนี้ในอดีตไปแล้ว และสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็เสียใจกับความสูญเสีย ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ ตำรวจก็อยากจะจับกุมให้ได้และดำเนินคดี แต่คดีเป็นเรื่องของการรวบรวมพยานหลักฐาน

 

เมื่อถามถึงกรณีที่ ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ ผู้เสียชีวิต กลับมีชื่อเป็นผู้ต้องหาที่ 2 ด้วย รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ชะงักไป ก่อนจะตอบว่าไม่ได้รับข้อมูลดังกล่าว ต้องขอตรวจสอบก่อน ส่วนกรณีที่สังคมมองว่าคุกมีไว้ขังคนจนเท่านั้น รองโฆษกตร. ขอร้องว่าสังคมอย่าสร้างวลีเช่นนั้น ตำรวจปฏิบัติตามหน้าที่

 

ขณะพล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษกตร. กล่าวย้ำว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตำรวจก็สูญเสีย ไม่ใช่มองแต่ว่าเป็นเรื่องของคนรวยคนมีเส้นมีสาย ถ้ามีพยานหลักฐานใหม่ก็สามารถที่จะกลับมาฟ้องใหม่ได้

 

สำหรับคดีนี้นายวรยุทธถูกระบุว่า อยู่ในรถเฟอร์รารีคันที่พุ่งชน ด.ต.วิเชียร ที่ปฏิบัติหน้าที่บนรถจักรยานยนต์ บริเวณถนนสุขุมวิท จนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555 และแต่เดิมนายวรยุทธถูกแจ้งข้อหาทั้งหมด 5 ข้อหา 1.ข้อหาเมาแล้วขับ ที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง  2.ขับรถเร็วเกิน หมดอายุความไปแล้วเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2556  3.ขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย หมดอายุความไปแล้วเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2556  4.ชนแล้วหนี หมดอายุความไปแล้วเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2560  และ 5.ข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งมีกำหนดจะหมดอายุความในวันที่ 3 กันยายน 2570 หรืออีกประมาณ 7 ปี แต่สุดท้าย อัยการกลับไม่ฟ้องในข้อหานี้เช่นกัน