มหากาพย์ส่วยคาราโอเกะ!’กฤษณะพงศ์’ยื่นศาลไม่ประสงค์ไกล่เกลี่ยคดีฟ้องกลับ’โจ๊ก’ฟ้องเท็จกล่าวหาพาจำเลยหนีไปลาว

มหากาพย์ส่วยคาราโอเกะ!’กฤษณะพงศ์’ยื่นศาลไม่ประสงค์ไกล่เกลี่ยคดีฟ้องกลับ’โจ๊ก’ฟ้องเท็จกล่าวหาพาจำเลยหนีไปลาว

 

เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2563 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พ.ต.อ.กฤษณะพงศ์ กัญจน์ชัยกิจ  ผู้กำกับการ กองกำกับการ1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว2 (ผกก.1 บก.ทท.2) เดินทางมาศาลเพื่อยื่นคำร้องขอยกเลิกการไกล่เกลี่ย คดีหมายเลขดำ อ.2699/2562 ที่ตนเองเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) เป็นจำเลย ในความผิดฐานฟ้องเท็จ และเบิกความเท็จ ซึ่งศาลประทับรับฟ้องคดีและตรวจพยานหลักฐานเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ก็เปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายเจรจาไกล่เกลี่ยกัน ก่อนขั้นตอนสืบพยานโจทก์-จำเลย

 

คำฟ้องโจทก์ระบุพฤติการณ์สรุปได้ว่า ขณะฟ้อง พ.ต.อ.กฤษณะพงศ์ โจทก์ เป็นตำรวจตำแหน่งผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.จชต.) กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ก.ค.2554 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จำเลย กระทำผิดอาญา โดยเจตนานำคดีอาญามาฟ้องโจทก์อันเป็นเท็จต่อศาลอาญา ในข้อหาหรือฐานความผิดร่วมกันสมคบกัน สั่งการ ก่อใช้ ขู่เข็ญ จ้างวาน หรือยุยงส่งเสริม หรือกระทำด้วยวิธีอื่นใด เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

 

กรณีกล่าวหาโจทก์ว่าพานายเขตสยาม เนาวรังสี เจ้าของร้านคาราโอเกะ ตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม หลบหนีคดีไปยังประเทศลาว โดยมีการพูดจาทำให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งจำเลยเบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีในชั้นไต่สวนมูลฟ้องต่อศาลอาญา ตามคำให้การพยานของจำเลย

 

ภายหลังยื่นคำร้องขอยกเลิกการไกล่เกลี่ย พ.ต.อ.กฤษณะพงศ์ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีนี้ ปรากฏว่าศาลกำหนดให้ไกล่เกลี่ยกันวันที่ 4 ส.ค.นี้ แต่ตนเองไม่ได้ประสงค์ที่จะเจรจาไกล่เกลี่ยกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จำเลยใดๆ ทั้งสิ้น เพราะว่าตลอดระยะเวลาตั้งแต่ปี 2555 ตนมีครอบครัวอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ โดนโยกย้ายไปอยู่พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยความไม่สมัครใจนานเกือบ 5 ปี ได้รับความเดือดร้อน ทุกข์แสนสาหัส จากการโดนฟ้องร้องเป็นคดีอาญาหลายคดี ทั้งที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ฟ้องเองและให้ลูกน้องเป็นคนฟ้อง รวมทั้งการแจ้งความดำเนินคดีและถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย นอกจากนี้ตนยังต้องห่างจากครอบครัว ลูก และภรรยา

 

ส่วนประเด็นของความขัดแย้งระหว่างตนเองกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ นั้น  พ.ต.อ.กฤษณะพงศ์ ระบุว่า เริ่มจากประชาชนร้องเรียนเรื่องส่วยคาราโอเกะในพื้นที่ จ.นครพนม ยุคที่ พล.ต.ท.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เป็น ผบ.ตร. แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ก.ค.2554 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จึงได้ฟ้อง พล.ต.อ.วิเชียร กับลูกน้อง 11 คน รวมทั้งตนเองด้วย สุดท้ายก็ต่อสู้คดีจนยุติเสร็จสิ้นทุกคดี แต่ก็ได้รับผลกระทบ