‘ญาติน้องปูนิ่ม’กังขา’ผู้กองบอย’ได้ประกันตัวหวั่นมีผลทางคดี-ผวาไม่ปลอดภัยเหตุเคยขู่ฆ่ายกครัวเตรียมยื่นค้านประกันตัว

‘ญาติน้องปูนิ่ม’กังขา’ผู้กองบอย’ได้ประกันตัวหวั่นมีผลทางคดี-ผวาไม่ปลอดภัยเหตุเคยขู่ฆ่ายกครัวเตรียมยื่นค้านประกันตัว

เมื่อ24 มิถุนายน 2563 ที่บ้านในพื้นที่หมู่ 4 บ้านดงเค็ง ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศลของนางสาวพิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ หรือ “น้องปูนิ่ม” อายุ 29 ปี ที่ถูกร.ต.อ.ทรงกด บุญส่ง  หรือผู้กองบอย รองสารวัตรสืบสวน สน.วังทองหลาง สามียิงเสียชีวิตในบ้านพักย่านบางกะปิ  กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่20มิ.ย.ที่ผ่านมา โดย บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า

 

ทั้งนี้ ญาติได้นำร่างของนางสาวพิมชฎาพร  กลับมายังบ้านเกิดเพื่อทำพิธีทางศาสนา โดยมีกำหนดการฌาปนกิจในวันที่ 25 มิถุนายน นี้ ที่เมรุสถานในวัดประจำหมู่บ้าน โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีบรรดาญาติละเพื่อนร่วมรุ่น เดินทางมาแสดงความเสียใจและให้กำลังครอบครัวน้องนิ่มตลอดวัน

 

นางทองใส ภูคงน้ำ อายุ 56 ปี มารดานางสาวพิมชฎาพร กล่าวว่า ถึงวันนี้ตนและครอบครัว ยังทำใจไม่ได้กับความสูญเสียน้องนุ่มนิ่ม ซึ่งได้แต่คิดปลงว่าน้องนุ่มนิ่มเอาอายุมาแค่นี้ เรามีวาสนาอยู่ร่วมกันเพียงเท่านี้ ชาติหน้าถ้ามีจริงขอให้เราเกิดมาร่วมภพด้วยกันอีก และแม่จะไม่ยอมให้ใครมาพรากชีวิตน้องนุ่มนิ่มไปจากอกแม่ก่อนเวลาอันควรอย่างนี้อย่างเด็ดขาด

 

“ก็ได้แต่เคาะโลงบอกวิญญาณน้องนุ่มนิ่มว่าขอให้น้องนุ่มนิ่มหลับสบาย เพราะคนร้ายที่มันลงมือทำร้ายน้องนุ่มนิ่มถึงแก่ชีวิตนั้นถูกจับดำเนินคดีแล้ว ถึงแม้ว่าจะยังได้ได้ชดใช้กรรม แต่มันก็จะได้รับความทุกข์ทรมานจากผลกรรมที่มันก่อขึ้นอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม หาก “ผู้กองบอย” ที่เป็นคนลงมือทำร้ายน้องนุ่มนิ่มเสียชีวิตมากราบขอขมาในวันเผาศพพรุ่งนี้ แม่ก็จะถามดังๆให้คนได้ยินทั้งโลกว่า ทำไมต้องทำกับน้องนุ่มนิ่มอย่างนี้ คนรักกันเขาตัดสินกันด้วยความตายอย่างนี้หรือ”นางทองใส กล่าว

 

ด้านนายสมัย ภูคงน้ำ ปลัด อบต.ยางตลาด อ.ยางตลาด นางสาวพิมชฎาพร  กล่าวว่า ทางญาติกำหนดฌาปนกิจน้องนุ่มนิ่มวันที่ 25 มิ.ย.นี้ ที่เมรุสถานในวัดประจำหมู่บ้าน เนื่องจากเชื่อมั่นในผลการชันสูตรศพและพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และผู้กองบอยที่แต่เดิมเป็นผู้ต้องสงสัย ก่อนจะรับสารภาพและตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี

 

นายสมัย กล่าวอีกว่า เนื่องจากผู้กองบอยผู้ต้องหา ใช้หลักทรัพย์จำนวน 5 แสนบาทประกันตัวออกมาสู้คดี นอกจากนี้ในอดีตเคยรับราชการที่ สน.พื้นที่เกิดเหตุ ญาติจึงวิตกว่าจะมีผลทางคดี และอาจจะไม่ได้รับความปลอดภัย ซึ่งอาจจะถูกผู้กองบอยลอบทำร้าย เนื่องจากเคยทราบจากน้องปูนิ่มก่อนเสียชีวิตว่า ทุกครั้งที่ทะเลาะกันเขาเคยขู่ฆ่ายกครัว ดังนั้นเพื่อความสบายใจของญาติ รวมทั้งป้องกันปัญหาอื่นๆ ภายในวันนี้ ญาติจะได้ปรึกษากันและตั้งทนายความ เพื่อยื่นอุทธรณ์ต่อศาล เพื่อคัดค้านการประกันตัวของผู้กองบอย ซึ่งจะต้องรับดำเนินการภายใน 12 วัน ตามกฎหมายกำหนด

 

ทั้งนี้ภายหลังเกิดเหตุดังกล่าว ร.ต.อ.ทางกลด ได้อ้างว่า น.ส.พิมชฎาพร ฆ่าตัวตาย ต่อมายอมรับว่าทะเลาะกัน จึงได้ใช้อาวุธปืนจ่อไปที่ศีรษะ น.ส.พิมชฎาพร เพื่อข่มขู่ แต่ผู้ตายใช้มือกำปืนไว้ จากนั้นปืนได้ลั่นขึ้น 1 นัด กระสุนปืนถูกที่ศีรษะขมับด้านซ้ายเป็นเหตุให้ น.ส.พิมชฎาพรถึงแก่ความตายบนโซฟาในที่เกิดเหตุ

ขณะที่พนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อกล่าวหาความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยให้การว่าไม่ได้มีเจตนาฆ่าผู้ตาย แต่เป็นอุบัติเหตุ

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนระบุว่า หากผู้ต้องหาขอประกันตัว พนักงานสอบสวนไม่คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาเข้าพบพนักงานสอบสวนเอง ไม่มีพฤติการณ์จะหลบหนี และไม่มีพฤติการณ์ยุ่งเหยิงต่อพยาน

ทางด้านทนายความของ ร.ต.อ.ทรงกรด ได้เตรียมหลักทรัพย์เงินสด 500,000  บาทเพื่อขอยื่นประกันตัว  ต่อมาศาลอาญามีคำสั่งให้ประกันตัว ร.ต.อ.ทรงกรด ผู้ต้องหา  เนื่องจากให้การภาคเสธ เข้าพบพนักงานสอบสวนเองโดยไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ไม่มีการยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ประกอบกับพนักงานสอบสวนไม่คัดค้านการปล่อยชั่วคราว จึงอนุญาตให้ประกันตัวตีหลักทรัพย์ 5 แสนบาทโดยไม่กำหนดเงื่อนไข