เหยื่อตร.ปราจีนยัดยาบ้า716เม็ดเสียใจ!หลังศาลแพ่งยกฟ้องเรียกค่าเสียหายสตช.30ล้านชี้ตร.8นายทำไปตามอำนาจหน้าที่

เหยื่อตร.ปราจีนยัดยาบ้า716เม็ดเสียใจ!หลังศาลแพ่งยกฟ้องเรียกค่าเสียหายสตช.30ล้านชี้ตร.8นายทำไปตามอำนาจหน้าที่

เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2562  ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง 63 ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ พ2585/2561 ระหว่างนายราชศักดิ์ เจริญรุ่งเรือง อดีตพนักงานลูกจ้างการไฟฟ้า เป็นโจทก์ยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เป็นจำเลยในความผิดฐานละเมิด เรียกค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 30 ล้านบาทและดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 กรณีสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 มี.ค.2557 นายราชศักดิ์ เจริญรุ่งเรือง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี จับกุมในข้อหามียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย  ขณะกำลังซื้อไก่ชนจากหญิงสาวรายหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจค้นบ้านพักของหญิงสาวรายดังกล่าว พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่จำนวน 716 เม็ด

 

ศาลแพ่งพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จากพยานหลักฐานรับฟังได้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจำนวน 8 นาย กระทำไปตามอำนาจหน้าที่ ดำเนินการจับกุมไปโดยตามขั้นตอนของกฎหมาย หาได้มีการกลั่นแกล้งหรือกระทำการละเมิด ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ประกอบกับผู้ต้องหาอีกหนึ่งคนในคดีนี้ให้การสอดคล้องกับการจับกุมในคดียาเสพติด ขณะที่คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาที่ยกประโยชน์แห่งเหตุอันควรสงสัยให้เท่านั้น จึงไม่สามารถนำมาอ้างเพื่อเรียกค่าเสียหายได้ เพราะถือเป็นดุลพินิจของแต่ละศาล จึงพิพากษาให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะจำเลย ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายฐานละเมิดแก่โจทก์ พร้อมกับยึดค่าฤชาธรรมเนียมศาลของโจทก์จำนวน 200,000 บาท ให้ตกแก่ศาล

นายราชศักดิ์ เจริญรุ่งเรือง
ขอบคุณภาพจากAMARINTV

นายราชศักดิ์ เจริญรุ่งเรือง ผู้เสียหาย กล่าวว่า รู้สึกเสียใจมาก คดีนี้ตนต้องถูกจำคุกในเรือนจำ 1 ปี ต้องสูญเสียหน้าที่การงาน เสียทรัพย์สิน และธุรกิจไก่ชน ไม่รู้จะพูดอย่างไรเพราะพูดไม่ออก เป็นเพียงประชาชนคนธรรมดาจึงสู้คดียาก ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดดังกล่าว แต่ถูกบังคับให้รับสารภาพ  ซึ่งเมื่อปี 2558 ศาลชั้นต้นได้พิพากษา จำคุก 1 ปี 6 เดือน โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา ต่อมาศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาพิพากษาให้ยกฟ้อง

 

ขณะที่ นายธนากร เจริญรุ่งเรือง บิดาผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อศาลแพ่งพิพากษาออกมาเป็นเช่นนี้ก็ต้องยอมรับและเสียใจ จะพยายามหาทางต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความจริง ที่ผ่านมาต้องเสียเงินในการต่อสู้คดี รวมถึงถูกยึดค่าธรรมเนียมศาลแพ่งในวันนี้อีก 200,000 บาท รวมแล้วเสียค่าต่อสู้คดีไปเกือบ 2,000,000 บาท โดยอยากจะยื่นอุทธรณ์เพื่อพิสูจน์ความจริงต่อ แต่ยังไม่รู้ว่าจะหาเงินมาวางค่าธรรมเนียมศาลจากที่ใด

 

สำหรับการต่อสู้คดีอาญาของนายราชศักดิ์ เจริญรุ่งเรือง อดีตพนักงานลูกจ้างการไฟฟ้า ที่ผ่านมา ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำนวน 700 เม็ด แต่ลงโทษให้มีความผิดฐานครอบครองเมทแอมเฟตามีน จำนวน 16 เม็ด โดยสั่งจำคุก 1 ปี 6 เดือน และปรับ 20,000 บาท ซึ่งได้ยื่นอุทธรณ์ เนื่องจากปฏิเสธว่าเมทแอมเฟตามีน จำนวน 16 เม็ดนั้นนายราชศักดิ์ต่อสู้อ้างว่าไม่ใช่ของตนเอง จนกระทั่งศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง พร้อมกับยกฟ้องข้อหาร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจําหน่าย และศาลฎีกาเห็นพ้องตามศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้ยกฟ้อง จนทำให้นายราชศักดิ์ กลับมาได้รับอิสรภาพอีกครั้งเมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2558 ที่ผ่านมา

นายราชศักดิ์ เจริญรุ่งเรือง
นายธนากร เจริญรุ่งเรือง บิดานายราชศักดิ์ ขณะร่วมเสวนาเรื่อง “ตำรวจยัดข้อหา ประชาชนจะต่อสู้และปฏิรูประบบสอบสวนอย่างไร?” จัดโดยเครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ (คป.ตร.) Police Watch ซึ่งมีเหยื่อและญาติผู้ต้องหาที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยัดข้อหามาร่วม 3 กรณี ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ถนนสามเสน วันที่ 7 ตุลาคม 2561