ตร.เครียดถูกย้ายสายงานโดยไม่สมัครใจฆ่าตัวตายเป็นใบไม้ร่วง! ผบ.ตร.ได้แต่บอกว่าเสียใจกำชับผู้บังคับชาคอยสอดส่องดูแลพฤติกรรมลูกน้อง

ตร.เครียดถูกย้ายสายงานโดยไม่สมัครใจฆ่าตัวตายเป็นใบไม้ร่วง! ผบ.ตร.ได้แต่บอกว่าเสียใจกำชับผู้บังคับชาคอยสอดส่องดูแลพฤติกรรมลูกน้อง

เมื่อเวลา 06.15 น. วันที่ 14 ต.ค.2562   ร.ต.อ.พีรเพชร นวคะวาส รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุตำรวจผูกคอเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 82/4 ซอยศิริรักษ์ หมู่ 2 ชุมชนหนองหิน ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม ร.ต.อ.ถิรโยธิน ทรัพย์สิน รอง สวป. ชุดสายตรวจ 191, แพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิอุดรส่งเสริมธรรม ที่เกิดเหตุบริเวณด้านหลังบ้าน พบศพ พ.ต.ต.สุริยน จงรักษ์ อายุ 58 ปี ตำแหน่ง สารวัตร ฝสสน.1 บก.สสน.บช.ตชด. สภาพสวมเสื้อยืดสีขาว นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน สวมรองเท้าแตะ ผูกคอเสียชีวิตกับต้นมะขาม โดยลูกสาวได้ใช้มีดตัดเชือกนำร่างของพ่อมานอนอยู่ที่ใต้ต้นมะขาม ข้างศพพบเก้าอี้ไม้ล้มอยู่

นางจันทร์ อายุ 57 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต ให้การว่า สามีจบนักเรียนพลตำรวจรุ่น 13 ที่มอดินแดง จ.ขอนแก่น ก่อนหน้านี้เป็นร้อยตำรวจเอก ประจำอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่ปี 2549 แต่บางครั้งลงไปทำงานภาคใต้บ้าง โดยล่าสุดได้ย้ายมารับตำแหน่งใหม่ เมื่อเดือน ก.พ.2562 ได้เป็นสารวัตรอยู่ฝ่ายจริยธรรมที่กรุงเทพฯ ตามปกติในวันหยุด หรือเสาร์ อาทิตย์ สามีจะกลับมายังบ้านที่ จ.อุดรธานี ระยะหลังมักบ่นว่าอยากลาออก เนื่องจากหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบ ทำงานได้ยากขึ้น บางครั้งก็ทำไม่ได้ รวมทั้งมีหนี้สินด้วย เพราะเงินเดือนติดลบตลอดทุกเดือน บางครั้งเวลาเงินไม่พอต้องมาเอาจากครอบครัวไปใช้จ่าย แต่ก็ไม่ได้เล่าเรื่องงานกับหนี้สินอะไรให้ฟังมากนัก คงเพราะไม่อยากให้ทางครอบครัวไม่สบายใจไปด้วย

ร.ต.อ. สุรศักดิ์ สุวรรณศักดิ์

ด้าน ร.ต.อ.พีรเพชร กล่าวว่า จากการสอบปากคำภรรยาและลูกผู้ตาย พอสรุปได้ว่า พ.ต.ต.สุริยนฆ่าตัวตายด้วยสาเหตุเกิดความเครียดในเรื่องการงาน เพราะได้บ่นให้ภรรยาฟังว่าทำงานไม่ได้ หลังจากมารับตำแหน่งใหม่ขึ้นเป็นสารวัตร เปลี่ยนจากสายงานเดิม รวมถึงปัญหาหนี้สินด้วย แพทย์ได้ทำการชันสูตรพลิกศพ พบว่าเสียชีวิตแล้ว 3-5 ชั่วโมง ขาดอากาศหายใจด้วยการผูกคอตาย ขณะที่ญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย จึงได้มอบศพให้นำไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป

 

วันถัดมา เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่15 ต.ค.  พ.ต.ท.เดชา โพธาราม สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเลย ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจผูกคอเสียชีวิตในบ้านพัก บ้านเลขที่ 390 หมู่ 9 ตำบลเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเลย จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยเลย จุดมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ เป็นบ้านปูนยกพื้น ที่บริเวณห้องครัวด้านหลังบ้าน พบศพ ร.ต.อ.ศิริวัฒน์ สุรทิพย์ รองสารวัตสอบสวน สภ.หนองหญ้าป้อง อำเภอวังสะพุง จ.เลย แต่ย้ายไปช่วยงานที่ สภ. เชียงกลม อ.เชียงกลม จ.เลย ใช้เชือกไนล่อน ขนาด 3 มม.ผูกกับขื่อหลังคาบ้าน ตื่นเช้าขึ้นมา ทางป้าและภรรยามาเห็น จึงตะโกนบอกให้คนมาช่วย พี่เขยของผู้ตายรีบวิ่งไปอุ้มแล้วตัดเชือก พยายามทำการ CPR แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้

เบื้องต้นจากการสอบสวน ภรรยาและน้องของผู้ตาย เล่าว่า  ผู้ตายได้แต่บ่นกับตนว่า ไม่อยากทำงานแล้ว อยากจะย้ายสายงาน เพราะเครียดมาก ตอนแรกเป็นรองสารวัตรสอบสวนอยู่ที่ สภ.หนองหญ้าป้อง อำเภอวังสะพุง จากนั้นได้ย้ายไปช่วยราชการอยู่ที่ สภ.เชียงกลม ได้ราวสองเดือน โดยก่อนหน้านี้ แฟนบอกติดเหล้ามาก พอเลิกเหล้าแล้วก็มีภาวะเครียด จนต้องพาไปพบหมอ ที่โรงพยาบาลจิตเวช

ร.ต.อ.ศิริวัฒน์ สุรทิพย์

ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา สามีเข้าไปนอนตามปกติ จากนั้นประมาณช่วงเวลา 05.00 น. ร.ต.อ.ศิริวัฒน์ ก็ได้ตื่นนอนขึ้นมา ยังได้ตะโกนพูดคุยทักทายกับคุณป้าที่มีบ้านอยู่ติดกัน แต่พอเวลาประมาณ 06.00 น. ก็ตื่นมาเห็นสามี ผูกคอตายอยู่ที่หลังบ้านแล้ว ตนตกใจมาก จึงรีบวิ่งไปบอกป้าและพี่เขยมาช่วย

 

ทางด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ  พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงเหตุข้าราชการตำรวจฆ่าตัวตาย ในพื้นที่ สภ.เมืองเลย ว่า ได้รับรายงานจาก สภ.เมืองเลย ว่า วันที่ 15 ต.ค.62 เวลา 7.15 น. ได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจผูกคอตาย ภายในบ้านเลขที่ 390 ม.9 บ้านโพนไทร ต.เมือง อ.เมือง จ.เลย จากนั้น พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมแพทย์ ได้เดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ พบศพคือ ร.ต.อ.ศิริวัฒน์ สุรทิพย์ รอง สว(สอบสวน)สภ.หนองหญ้าปล้อง จว.เลย ช่วยราชการ สภ.เขียงกลม เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

จากการสอบสวนเบื้องต้น สันนิษฐานสาเหตุการฆ่าตัวตาย น่าจะมาจากความเครียดจากสุขภาพของตนเอง โดยผู้ตายเข้ารับการรักษาตัว ที่โรงพยาบาลจิตเวช จว.เลย ตั้งแต่เดือน ม.ค.2562 เป็นต้นมา

รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ได้รายงานให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์  ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ทราบรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว ท่านเสียใจกับความสูญเสียทุกครั้ง ไม่ว่าจะเกิดจากเรื่องส่วนตัวหรือจากการปฏิบัติหน้าที่  และท่านได้ฝากแสดงความเสียใจไปยังญาติของผู้เสียชีวิตด้วยและได้กำชับให้ผู้บังคับบัญชาลงไปช่วยดูแลถึงสิทธิประโยชน์อันพึงได้ที่ผู้เสียชีวิตจะได้รับ อย่าให้ขาดตกบกพร่อง และช่วยประสานงานในส่วนที่เกี่ยวข้องให้กับญาติผู้เสียชีวิต

จักรทิพย์ ชัยจินดา

ทั้งนี้ผบ.ตร. ได้มีความเป็นห่วงเป็นใยถึงข้าราชการตำรวจทุกนายและมีการกำชับไปยังผู้บังคับชาทุกหน่วย ให้คอยสอดส่อง ดูแลพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้ใต้บังคับบัญชา หมั่นให้ความใส่ใจ ซักถาม ทำความเข้าใจ และดูแลช่วยเหลือกับปัญหา ของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ก็ตาม พร้อมกันนี้จึงขอประชาสัมพันธ์ ข้าราชตำรวจหรือญาติที่พบว่าข้าราชการตำรวจ ที่มีความเสี่ยงที่อาจก่อเหตุฆ่าตัวตาย ให้สังเกตุสัญญาณเตือนที่จะนำไปสู่การฆ่าตัวตาย เช่น พูดถึงความตายหรือการฆ่าตัวตาย หรือบ่นว่าอยากตาย ,พูดหรือเขียนสั่งเสีย ,เคยพยายามฆ่าตัวตาย , เศร้าซึม แยกตัวเอง , ป่วยเป็นโรคจิต , ติดสุราหรือยาเสพติด จนเลิกไม่ได้ , เกิดการโต้เถียง ทะเลาะวิวาทรุนแรงบ่อยๆ เป็นต้น ควรหันหน้าปรึกษาญาติหรือผู้บังคับบัญชาหรือเพื่อนร่วมงานก่อน และสามารถขอรับการรับคำปรึกษาหรือการรักษาได้ที่ กลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติด โรงพยาบาลตำรวจ หมายเลขโทรศัพท์ 022-076-144 หรือ 022-076-000 ต่อ 6144 และโทรศัพท์มือถือหมายเลข 063-1958-001

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงนี้มีตำรวจโดยเฉพาะพนักงานสอบสวนฆ่าตัวตายอย่างต่อเนื่อง โดย เมื่อวันที่ 20 ก.ย.  เวลา 14.00น. ร.ต.อ.สุพจน์  สุขเกษม อายุ 45 ปี รอง สว.สอบสวน สภ.ปางศิลาทอง  ใช้อาวุธปืน9มม.ยิงบริเวณหน้าอกซ้ายเสียชีวิต หน้าเสาธงสภ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร เนื่องจากเครียกถูกเปลี่ยนสายงานจากงานป้องกันและปราบปราม ไปอยู่สายงานสอบสวน ซึ่งเป็นงานที่ไม่ถนัด และเกิดภาวะเครียดกับงาน ซึ่งหลังไปอบรมพนักงานสอบสวน กลับมาก็ไม่ค่อยจะพูดจากับใคร ก่อนก่อเหตุดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ช่วงเช้า วันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา  ร.ต.อ.ทรงศักดิ์ ใจฉกรรจ์ อายุ 49 ปี  ตำแหน่งเป็น รอง สวป.สภ.เมืองสิงห์บุรี ใช้อาวุธปืนปลิดชีพภายในรถยนต์ตัวเอง ขณะไปอบรมที่สถาบันส่งเสริมงานสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม  เนื่องจากเครียดจากที่ตำแหน่งเดิมเป็น รอง สวป.สภ.เมืองสิงห์บุรี ดูแลเรื่องการจราจร แต่ต้องย้ายมาเป็นพนักงานสอบสวน และไม่คุ้นกับงานสอบสวนในตำแหน่งใหม่

เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ร.ต.อ. สุรศักดิ์ สุวรรณศักดิ์ อายุ 50 ปี รองสว.สอบสวน สภ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ถูกย้ายจากสายสืบสวนไปอยู่สอบสวนชักปืนยิงหัวดับคาบ้านพักภายในสภ.แม่แตง ซึ่งผู้ตายเป็นคนจริงจังกับการทำงานและประกอบกับอายุมากขึ้นและในพื้นที่มีเขตรับผิดชอบในการสอบสวนมีความเจริญทางด้านการค้า มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบจำนวนมาก จึงเกิดความเครียดและก่อเหตุฆ่าตัวตาย

และเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ร.ต.อ.พิเชษฐ์ สุชาติพงษ์ รองสารวัตรป้องกันและปราบปราบ(รอง สว.ป.) สภ.มาบอำมฤต จ.ชุพร ถูกย้าย ไปอยู่ในตำแหน่งรอง สว.(สอบสวน) โดยไม่สมัครใจ ไม่ถนัด ไม่พร้อมทำงาน คิดมากจนผอม ตัดสินใจใช้ปืนยิงขมับตายภายในบ้านพัก หมู่ 12 ต.ดอนยาง อ.ปะทิว จ.ชุมพร  ทิ้งจดหมายระบายความในใจ ความไม่เป็นธรรมและปัญหาตำรวจไว้สามหน้า ขณะที่ภรรยาร.ต.อ.พิเชษฐ์ โวยคำสั่งโยกย้ายครั้งนี้กลายเป็นคำสั่งตายทำลายครอบครัวตนลูกๆทั้ง 2 คนที่ต้องกำพร้าพ่อตั้งแต่ยังเด็กจึงประกาศตัดขาดวงการตำรวจ