ข่าวดี!’ประยุทธ์’ตอบ’สว.คำนูณ’กลางสภายันจะคุมสตช.เองพร้อมปฏิรูปตำรวจให้ชัดเจนมากขึ้นทำให้ตร. อัยการ ศาล สอดคล้องกันเกิดความยุติธรรมทุกฝ่าย

ข่าวดี!’ประยุทธ์’ตอบ’สว.คำนูณ’กลางสภายันจะคุมสตช.เองพร้อมปฏิรูปตำรวจให้ชัดเจนมากขึ้นทำให้ตร. อัยการ ศาล สอดคล้องกันเกิดความยุติธรรมทุกฝ่าย

เมื่อวันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2562 ณ หอประชุมใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นอาคารประชุมรัฐสภาชั่วคราว มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา สมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ 1 ในวาระที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เป็นวันที่ 2

 

โดยช่วงค่ำ นายคำนูณ สิทธิสมาน  สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) อภิปรายนโยบายรัฐบาลเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และกระบวนการยุติธรรม เรื่องการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ว่า เนื้อหาทั้งหมดดีและถูกต้อง และรัฐบาลชุดที่แล้วภายใต้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ถือว่าทำได้เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการปฏิรูปกฎหมาย ที่จะมีกฎหมายลูกใช้อีกไม่นานนี้ ถือเป็นเรื่องที่น่าชมเชย แต่ในร่างนโยบายบางส่วนที่อาจจะขาดความสมบูรณ์ แม้เรื่องเล็กแต่ก็เป็นเรื่องใหญ่ คือขาดคำว่า”ปฏิรูปตำรวจ”ทั้งที่เป็นต้นสายการกระบวนการยุติธรรม

 

“ที่สำคัญมีเสียงเรียกร้องจากประชาชนมาตลอด และข้าราชการตำรวจเองก็ต้องการให้มีการปฏิรูปตำรวจ และในรัฐธรรมนูญ มาตรา 258 (4) ก็ระบุชัดเจนถึงรูปธรรมที่ต้องดำเนินการในการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ คือจัดทำหน้าที่ อำนาจภารกิจให้เหมาะสม และปรับปรุงกฎหมายบริหารงานบุคคลให้มีประสิทธิภาพ คือการแต่งตั้งโยกย้าย และยังมีบทบังคับแยกออกมาจากการปฏิรูป11 ด้าน ร่วมกับการศึกษา โดยให้มีคณะกรรมการพิเศษขึ้นมา หากไม่แล้วเสร็จภายในหนึ่งปีให้การแต่งตั้งโยกย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ภายใต้หลักอาวุโสตามที่ครม.กำหนด”

 

 

นายคำนูณ กล่าวต่อว่า คณะกรรมการชุดที่มีพล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธานฯ ได้ส่งมอบผลสรุปไปให้ครม.วันที่ 6 เม.ย. 2561 โดยครม.รับหลักการ และส่งต่อให้กฤษฎีกาพิจารณา และส่งกลับมาให้ครม.ปลายปี 2561 เมื่อกฎหมายยังไม่แล้วเสร็จ ปรากฏว่าการแต่งตั้งโยกย้ายไม่ได้ดำเนินการตามกฎหมายกำหนด โดยมีการออกหลักเกณฑ์แต่งตั้ง แต่ไม่ตรงกับรัฐธรรมนูญ ในเดือนกรกฎาคม 2561 มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เพื่อรับรองหลักเกณฑ์ดังกล่าว แต่ที่น่าสนใจคือในคำสั่งดังกล่าวรับรองความถูกต้องที่ไม่ได้ตามหลักอาวุโส100 เปอร์เซนต์ แต่เป็น30 เปอร์เซนต์ ตามที่เคยทำกันตามปกติ ดังนั้นมาตรการการบังคับใช้ของรัฐธรรมนูญจึงไม่เป็นจริง

 

 

“เมื่อไม่มีคำนี้อยู่ในร่างนโยบาย และร่างกฎหมายที่จะตราขึ้น16 อันดับก็ไม่มีกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติ หรืออาจจะตีความอยู่ในส่วนของกฎหมายอื่นๆก็ได้ แต่เรื่องนี้สำคัญควรมีระบุไว้ หรือครม.ควรจะแถลงว่าจะดำเนินการตามรัฐธรรมนูญกำหนดด้วยการเร่งดำเนินการนำเสนอกฎหมายตำรวจแห่งชาตินำเข้าสู่รัฐสภา จะทำให้การแต่งตั้งโยกย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นไปตามเกณฑ์ที่รธน.กำหนดไว้ ซึ่งจะเป็นไปตามพันธกิจตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ และเป็นการปฏิรูปประเทศในส่วนสำคัญที่ถือว่า จะทำให้ประเทศเดินหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน”นายคำนูณ กล่าว

 

 

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวชี้แจงว่า จากนี้เป็นต้นไป ตนเป็นผู้รับผิดชอบการปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) และจะดำเนินการปฏิรูปตำรวจให้มีความชัดเจนมากขึ้น แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วนด้วย ทั้งการปฏิรูปในส่วนขององค์กร บุคลากร วิธีการปฏิบัติงาน ที่มาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพราะตำรวจเป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรม แต่จะปฏิรูปตำรวจอย่างเดียวคงไม่พอ จึงต้องทำให้ตำรวจ อัยการ ศาล ทั้งหมดสอดคล้องกัน ซึ่งจะต้องมีการหารือกันเพื่อให้สามารถดำเนินการตรงนี้ได้โดยเร็ว

 

“ผมยืนยันว่าจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด และทำให้ตำรวจได้รับความไว้ใจจากประชาชนมากที่สุด ขณะเดียวกันต้องทำให้ประชาชนรู้สึกอุ่นใจ เพราะในปัจจุบัน เกิดความขัดแย้งสูงขึ้น เพราะไม่ว่าจะทำผิดหรือถูก เจ้าหน้าที่ตำรวจมักตกเป็นจำเลยเสมอ จึงต้องทำให้เกิดความยุติธรรมกับทุกฝ่าย”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว