‘สมศักดิ์’เชิญทนายโจทก์คดีแพรวาชน9ศพหารืออังคารนี้ ยันต้องการเห็นความยุติธรรมอย่างเท่าเทียม

‘สมศักดิ์’เชิญทนายโจทก์คดีแพรวาชน9ศพหารืออังคารนี้ ยันต้องการเห็นความยุติธรรมอย่างเท่าเทียม

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึง กรณีคดีแพรวา 9 ศพว่า ล่าสุดได้สั่งการให้ผู้บริหารกระทรวง เชิญทนายฝ่ายโจทก์มาปรึกษาหารือ หาทางออก เร่งรัดให้ผู้เสียหายได้ประโยชน์โดยเร็ว ซึ่งจะมีการหารือในวันอังคาร 23 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม ส่วนการเชิญเพียงทนายฝั่งโจทก์เพราะผู้เสียหายมีมาก เพื่อความรวดเร็วจึงเลือกเชิญทนายก่อน เมื่อการพูดคุยจบ จะทราบทันทีจะช่วยอะไรเขาได้ ขอยืนยันคดีนี้ตน และกระทรวงยุติธรรมจะทวงสิทธิให้กับครอบครัวที่สูญเสียคนเป็นที่รักไป

 

“การทำงานกระทรวงยุติธรรม ยุคนี้ต้องเดินหน้าแบบบูรณาการ รับฟังปัญหา ร่วมกันหาทางออกให้กับประชาชนที่เดือดร้อนทางคดีความ อะไรล่าช้าต้องเร่งติดตามความคืบหน้า ต้องหาทางออกว่าช่วยเหลืออะไรได้บ้าง อะไรที่ผู้เสียหายยังขาดเหลือต้องรีบดำเนิน โดยเราจะยกคดี แพรวา เป็นตัวอย่างการทำงาน เรื่องนี้ทำให้ผมต้องการเห็นประชาชนเข้าถึงความยุติธรรมอย่างเท่าเทียม” รมว.ยุติธรรม กล่าว

 

รายงานข่าวแจ้งว่า กรมบังคับออกแถลงการณ์ชี้แจงขั้นตอนการบังคับคดีระบุว่า​กรณีคดีเกี่ยวกับอุบัติเหตุรถเก๋งชนกับรถตู้โดยสารทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 9 ราย ซึ่งมีการดำเนินคดีอาญาและคดีแพ่งกระทั่งศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว และจนบัดนี้ผู้เสียหายยังไม่ได้รับการเยียวยาในส่วนของค่าเสียหายตามคำพิพากษาดังกล่าว ตามที่ปรากฏในข่าวนั้น

กรมบังคับคดีขอเรียนชี้แจงขั้นตอนในการบังคับคดีดังนี้ ในคดีแพ่งซึ่งผู้เสียหายได้ฟ้องเรียกให้ชำระค่าเสียหาย หากโจทก์ผู้ชนะคดีไม่ได้รับชำระหนี้ตามคำพิพากษาและประสงค์จะบังคับคดี ต้องดำเนินการโดยยื่นขอให้ศาลออกคำบังคับและออกหมายบังคับคดี

 

เมื่อศาลออกหมายบังคับคดีและส่งมาที่กรมบังคับคดีหรือสำนักงานบังคับคดี แล้ว โจทก์ผู้ชนะคดี จะต้องสืบหาทรัพย์สินของลูกหนี้ และมาตั้งเรื่องโดยแถลงขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับกับทรัพย์สินดังกล่าวให้ ทั้งนี้จะต้องดำเนินการภายในระยะเวลาบังคับคดี 10 ปีนับแต่ศาลมีคำพิพากษา

 

ไม่ว่าจะเป็นการยึดทรัพย์สิน หรือการอายัดสิทธิเรียกร้องต่างๆ เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ อันเป็นกระบวนการบังคับคดีตามกฎหมาย ซึ่งคู่ความสามารถติดต่อเพื่อดำเนินการ หรือขอคำแนะนำได้ที่สำนักงานบังคับคดีทั่วประเทศ

อย่างไรก็ดี หากคู่กรณีมีความประสงค์ที่จะทำการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในชั้นบังคับคดี สามารถดำเนินการได้ โดยแสดงความประสงค์ขอให้ทำการไกล่เกลี่ย ณ ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ณ สำนักงานบังคับคดี หากมีข้อสงสัยหรือข้อขัดข้องในการดำเนินการ สามารถติดต่อมายังกรมบังคับคดี หรือสำนักงานบังคับคดีทั่วประเทศ โดยกรมบังคับคดีได้จัดเจ้าหน้าที่เพื่อให้คำแนะนำและให้การช่วยเหลือกับประชาชนต่อไป

 

​ทั้งนี้ คดีเกิดขึ้นในเขตอำนาจของศาลแพ่ง ซึ่งอยู่เขตพื้นที่ของสำนักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร 1 กรมบังคับคดีได้จัดเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำและให้การช่วยเหลือประชาชน