วงการสีกากีวิกฤติ!ร.ต.อ.ถูกเด้งจากรองสวป.เป็นพงส.ไม่สมัครใจเครียดยิงตัวตาย เมียซัดตร.ผู้ใหญ่คิดแต่หาประโยชน์วิ่งเต้นตำแหน่ง

วงการสีกากีวิกฤติ!ร.ต.อ.ถูกเด้งจากรองสวป.เป็นพงส.ไม่สมัครใจเครียดยิงตัวตาย เมียซัดตร.ผู้ใหญ่คิดแต่หาประโยชน์วิ่งเต้นตำแหน่ง

ร.ต.อ.พิเชษฐ์ สุชาติพงษ์

ร.ต.อ.โรงพักใน จว.ชุมพร เครียด ถูกย้ายจาก รอง สวป.เป็นพนักงานสอบสวนไม่สมัครใจ ไม่ถนัด ไม่พร้อมทำงาน คิดมากจนผ่ายผอม  ตัดสินใจใช้ปืนยิงขมับตาย  ทิ้งจดหมายระบายความในใจ ความไม่เป็นธรรมและปัญหาตำรวจไว้สามหน้า เมียโวย! บริหารงานตำรวจสุดเละเทะ ประกาศตัดขาดวงการ!

 

เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 26 มิถุนายน 62 พ.ต.ท.อติชาติ พรฑิตกุล รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.มาบอำมฤต ได้รับแจ้งเหตุตำรวจยิงตัวตายในบ้านเลขที่ 119 ถนนเทศบาลซอย 6 หมู่ที่ 12 ตำบลดอนยาง อ.ปะทิว จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุวรรณฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.ท.ประพาส รอดเกลี้ยง รอง ผกก.(ป) พ.ต.ท.บุญเชต กัลปหา รอง ผกก.ส.ส. ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.มาบอำมฤต หน่วยกู้ภัยปะทิว หน่วยกู้ชีพเทศบาลมาบอำมฤต

 

ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจาก สภ.มาบอำมฤต ประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นบ้าน 2 ชั้น หลังใหญ่สวยงามอยู่ติดกับถนนคอนกรีต เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณห้องนอนชั้นสองโดยห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปพบศพทราบชื่อ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ สุชาติพงษ์ อายุ 48 ปี สภาพศพนุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีดำใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาว นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนที่นอนมีแผลถูกยิงที่ขมับขวาทะลุขมับซ้ายกระสุนพุ่งขึ้นไปเจาะฝ้าเพดานห้องเป็นรูโบ๋ ที่มือขวากำปืนสั้นขนาด 9 มม.ยีห้อกล็อก กระสุนในรังเพลิงถูกยิงออกไปแล้ว 1 นัด มีหมอนโชกเลือดตกอยู่ข้างศพ 1 ใบ มีร่องรอยกระสุนปืนจ่อยิงจนทะลุ บนหัวเตียงนอนมีวิทยุสื่อสารวางอยู่ 1 เครื่อง

 

นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังพบสมุดบันทึกที่ ร.ต.อ.พิเชษฐ์เขียนข้อระบายไว้ 3 หน้ากระดาษ โดยระบุถึงสาเหตุที่ต้องยิงตัวตามมาจากคำสั่งที่ถูกย้ายจากงานสายป้องกันและปราบปราบไปอยู่ในตำแหน่งงานสอบสวน อย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม และความอัปยศต่างๆนาๆในแวดวงสีกากีที่มีการวิ่งเต้นโยกย้ายในตำแหน่ง จนตำรวจดีๆต้องหมดหวังหมดกำลังใจ เจ้าหน้าจึงเก็บสมุดบันทึกดังกล่าวไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกำส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียดที่โรงพยาบาล

 

จากการสอบสวนทราบว่าช่วงเกิดเหตุ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ ออกเวรกลับจาก สภ.มาบอำมฤต แล้วเดินทางกลับเข้าบ้านหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เข้าไปเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องนอนเพียงคนเดียวโดยชั้นบนของบ้านได้ปิดไฟมิดสนิท ขณะลูกสาวคนโตอายุ 14 ปี เรียนชั้น ม.1 นั่งทำการบ้านอยู่บริเวณชั้นล่าง ส่วนภรรยาและลูกชายวัย 9 ขวบ เดินออกไปทำธุระที่บ้านพี่ชายซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 500 เมตร จากนั้นไม่นานมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด แต่เสียงไม่ดังมากนักลูกสาวที่นั่งทำการบ้านอยู่เข้าใจว่าเป็นเสียงรถท่อรถจักรยานยนต์ ต่อมาจึงคิดเอะใจว่าทำไม่พ่อปิดไฟในห้องนอนและชั้น 2 บนบ้านปิดไฟมืดสนิททั้งหมด จึงโทรศัพท์ไปบอกแม่ให้รีบกลับบ้านมาดูพ่อ และเมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปดูก็พบว่า ร.ต.อ.พิเชษฐ์ ใช้หมอนปิดศีรษะเพื่อเก็บเสียงแล้วใช้อาวุธปืนจ่อยิงฆ่าตัวตายดังกล่าว

 

ขณะที่ นางแอนนา สินธุนนท์ อายุ 44 ปี ภรรยาผู้ตายได้กล่าวด้วยความขุ่นเคืองเสียงดังต่อหน้า พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุวรรณฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร ถึงปมเหตุที่สามีตนเองยิงตัวตายว่ามาจากความเครียดในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาหลังมีคำสั่งย้ายสามีตนจากตำแหน่งรองสารวัตรป้องกันและปราบปราม ไปอยู่ตำแหน่งรองสารัตรสอบสวน เป็นการย้ายตำรวจจากงานถนัดไปอยู่งานที่ไม่เคยทำมาก่อน โดยไม่เคยสอบถามความสมัครใจใดๆทั้งสิ้น คิดจะย้ายใครไปอยู่ตรงไหนก็ย้ายทำให้เกิดปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่ ตนขอตัดขาดจากวงการตำรวจนี้อย่างเด็ดขาดจะไม่ขอเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นอีกต่อไป ขณะที่ พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ยืนฟังด้วยสีหน้าเคร่งเครียดพร้อมกล่าวปลอมใจและให้กำลังใจแก่นางแอนนา

 

นางแอนนา กล่าวกับผู้สื่อข่าวอีกว่า ปกติสามีตนเป็นรักครอบครัวสนุกสนานร่าเริงมีอัธยาศัยดีเพื่อนร่วมงานและชาวบ้านรัก แต่หลังจากมีคำสั่งย้ายช่วงกว่า 3 เดือนที่ผ่านมา สามีตนกลายเป็นคนเครียดเก็บกดเก็บตัวไม่สุงสิงกับใครเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยทีเดียว ไม่ค่อยกินอาหารจนผอมและจะพูดจาตัดพ้อกับตนและเพื่อนๆทุกวันเกี่ยวกับตำแหน่งที่ถูกปรับย้ายว่าไม่เป็นงานที่ไม่ถนันไม่เคยทำงานสอบสวนมาก่อน

 

“ขอฝากถามไปถึงระดับผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า การโยกย้ายตำรวจแต่ละครั้งนั้นคิดจะย้ายใครไปอยู่ตรงไหนก็ได้ใช่ไหม โดยไม่ต้องสอบถามผู้ที่ถูกย้ายว่ามีความสามารถทำงานด้านใดได้บ้าง เคยรู้ปัญหาเหล่านี้ไหมไม่ใช่คิดแต่จะหาผลประโยชน์วิ่งเต้นตำแหน่งกัน คำสั่งโยกย้ายครั้งนี้กลายเป็นคำสั่งตายทำลายครอบครัวตนลูกๆทั้ง 2 คนที่ต้องกำพร้าพ่อตั้งแต่ยังเด็กทำให้ขาดเสาหลักของครอบครัว เป็นเพราะคำสั่งดังกล่าวที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้”นางแอนนา กล่าว

 

สำหรับ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ สุชาติพงษ์ อดีตเป็นตำรวจชั้นประทวนยศจ่าสิบตำรวจ(จ.ส.ต.)ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ฝ่ายป้องกันและปราบปราม ประจำอยู่ที่ สภ.มาบอำมฤต ต่อมาได้ตั้งใจเรียนจนจบระดับปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จากนั้นในปี พ.ศ.2548 สอบติดนายตำรวจสัญญาบัตรในตำแหน่งรองสารวัตรป้องกันและปราบปราบ(รอง สว.ป.)  จนเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งโยกย้ายระดับ สว.รอง ผบก.ตามคำสั่งที่ 127/2562-139/2562 จำนวน 6239 ตำแหน่ง โดยคำสั่งดังกล่าวได้โยกย้าย ร.ต.อ.พิเชษฐ์ สุชาติพงษ์ รอง สว.ป.สภ.มาบอำมฤต ไปอยู่ในตำแหน่ง รอง สว.(สอบสวน) จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น